(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลงเหตุกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย-หวั่นแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 22, 2016 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะซึมตัวลง เนื่องจากมีความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ได้ออกมาให้การสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสอดคล้องกับประธานเฟดสาขาอื่นที่ออกมาพูดในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ สัปดาห์นี้จะมีหุ้นที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD หลายตัว ทำให้ไปกดดันตลาดฯได้ โดยคาดว่าจะมีผลต่อ SET ประมาณ 4 จุด ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมา 7 วันแล้ว ประมาณ 16% ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจมีการขายล็อคกำไรไว้ก่อน จึงมีโอกาสที่หุ้นจะปรับฐานได้

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ราว 0.1-0.2%

พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,552.57 จุด ลดลง 45.13 จุด (-0.24%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,238.38 จุด ลดลง 1.77 จุด (-0.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,183.87 จุด ลดลง 3.15 จุด (-0.14%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 53.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 4.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 29.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.74 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ส.ค.59) ,538.76 จุด ลดลง 8.25 จุด(-0.53%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 487.89 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ส.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ส.ค.59) ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ส.ค.59) ที่ 3.96 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.69/70 ทิศทางอ่อนค่าตามภูมิภาค มองกรอบ 34.63-34.78
  • ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกอาหารไทยในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2559) มีมูลค่า 4.74 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกหลักขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่าเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ กุ้ง น้ำผลไม้ สับปะรดกระป๋อง น้ำตาลทราย นมพร้อมดื่ม และกะทิสำเร็จรูป
  • ธปท.เผยหนี้เสียพุ่งในธุรกิจอุตสาหกรรมพาณิชย์ อุปโภคบริโภคส่วนบุคคล หนี้ใหม่-หนี้เก่ากลับเป็นหนี้อีกครั้งเพิ่มขึ้นเป็นอันดับต้นของภาคธุรกิจ แบงก์เร่งระบายเอ็นพีแอลส่วนหนึ่งมีการตัดขายหนี้ 2.89 หมื่นล้านบาทและโอนเป็นหนี้ปกติ 7.6 พันล้านบาท
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดการส่งออกไทยในครึ่งปีหลังจะชะลอตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 1.9 จากครึ่งปีแรกที่หดตัวร้อยละ 1.6 ทำให้ทั้งปี 2559 นี้จะหดตัวลงร้อยละ 1.8 จากอุปสงค์โลกที่ยังอ่อนแอและราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำต่อไป อย่างไรก็ตามยังมองว่าการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และ CLMV ยังสามารถเติบโตได้ในสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุปโภคบริโภค ตามลำดับ
  • ขสมก.เดินหน้าจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน งบ 3 พันล้าน ตามโรดแม็ปนายกฯ เผยกำลังรับฟังความคิดเห็นคาดเปิดขายซองประกวดราคาเดือน ต.ค. มีเอกชนสนใจจำนวนมาก นำร่องล็อตแรก 20 คัน ทดลองวิ่ง พร้อมตั้งสถานีชาร์จไฟ 4 จุดตามแนวเส้นทาง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ACAP-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ของ บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) ครั้งที่ 1) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 62,499,957 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 1 สิงหาคม 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 15 ธ.ค. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 ก.ค. 2561

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ได้ขยายช่วงดำเนินการตามเกณฑ์ระดับ 1 : Cash Balance สำหรับหลักทรัพย์ บมจ. เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) และ ACAP-W1 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.- 9 ก.ย.2559

  • KCE (ยูโอบี เคย์เฮียน)คาดผลประกอบการ 3Q59 จะออกมามากที่สุดของปีจากช่วง high season เนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาสินค้า ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องจักรในโรงงานใหม่ที่ดีขึ้นและผลแห่งการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
  • AP (ไอร่า) เป้า 7.90 บาท คาดยอดขายน่าจะดีขึ้นใน 2H/59 ซึ่งมีแผนเปิดทั้งหมด 13 โครงการ แบ่งเป็น 10 โครงการแนวราบ และ 3 โครงการคอนโดมิเนียม (ทำเลใจกลางเมือง ได้แก่ ซอยสุขุมวิท39 ซอยเอกมัย และถนนวิทยุ) พร้อมคาดผลการดำเนินงานใน 4Q59 จะโดดเด่นที่สุดสำหรับปี โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี’59 เดิมที่ 2,620 ล้านบาท
  • PLANB (เคจีไอ) เป้า Consensus 6.9 บาท ประเมินไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุดของปี โดย Utilization rate ต่ำเพียง 59% ติดต่อเนื่องมา 2 ไตรมาส ขณะที่แนวโน้มการบริโภคในประเทศฟื้นตัวเป็นบวกต่อการเร่งงบโฆษณาช่วงปลายปีนี้ และพอร์ตสื่อในมือเพิ่ม +25% YTD แล้ว และกระแสฟุตบอลไทยดีต่อเนื่องเป็นบวกต่อการเป็นตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยคาดไตรมาส 3/59 เริ่มรับรู้กำไรบางส่วนราว 10 ล้านบาทตามสัญญาตกค้างเก่า และคาดปีหน้าจะมีกำไร 100-150 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ