บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯยังคงแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ประเด็นเกิดเหตุไฟไหม้ถังเก็บน้ำเสียของบริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด ที่ PTTGC ถือหุ้นทั้ง 100% เมื่อเช้ามืดวันนี้ ไม่กระทบตัวเครื่องจักรของโรงงานแต่บริษัทต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อตรวจสอบสาเหตุก่อน โรงงานนี้สร้างรายได้ให้คิดเป็น 10% ไม่กระทบประมาณการและราคาเป้าหมายที่ 70 บาท
อนึ่ง พีทีที ฟีนอล ระบุว่าเมื่อเวลาประมาณ 02.17 น.วันนี้เกิดเพลิงไหม้ถังเก็บน้ำเสียที่มีน้ำมัน (Hydrocarbon) ปนเปื้อนอยู่ด้วย ณ โรงฟีนอลในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งบริษัทสามารถระงับเหตุไฟลุกไหม้ได้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 04.13 น. และขณะนี้บริษัทได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉินแล้ว และได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อม ทั้งภายในและภายนอกโรงงาน บริเวณทิศทางใต้ลมร่วมกับทีมสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดไม่พบกลิ่นผิดปกติ และตรวจวัดไม่พบค่าผิดปกติ
ด้าน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะ"ทยอยซื้อสะสม"หุ้น PTTGC โดย H1/59 กำไร 9,631 ล้านบาท -34%YoY เนื่องจากทั้งโรงกลั่นและโรงงานโอเลฟินส์ #3 ปิดซ่อมบำรุงนาน แต่คาด H2/59 ฟื้นแรงหลังโรงงานเดินเครื่องปกติ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Spread และ GRM) ก็ยังดี โดยให้มูลค่ายุติธรรม 75.7 บาท
ส่วน บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"PTTGC ราคาเป้าหมาย 70 บาท เชื่อว่าผลประกอบการ Q2/59 ได้ลงไปแตะจุดต่ำแล้ว (Bottom-out) และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหลักสนับสนุนการฟื้นตัวของราคาหุ้น หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาด (laggard) ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
ปัจจัยบวกจาก 1) ธุรกิจโอเลฟินส์มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 88-90% ใน Q3/59 และน่าจะถึง 93-95% ใน Q4/59 2) ธุรกิจโรงกลั่นน่าจะมีผลประกอบการฟื้นตัวหลังปิดซ่อมโรงงานตามแผน, 3) สเปรด PX-คอนเดนเสทเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีการปรับตัวของอุตสาหกรรมในเอเชียเหนือ ปัจจุบัน PTTGC ซื้อขายที่ EV/EBITDA เพียง 5.5x ในปี CY17 เท่ากับส่วนลดสูงถึง 25% จากคู่แข่งอย่าง PChem (vs. 15-20% ในอดีต) PTTGC จีงน่าสนใจกว่าในฐานะผู้เล่นโดยตรงในธุรกิจโอเลฟินส์
ล่าสุดเมื่อ 19 ส.ค.2559 หุ้น PTTGC ปิดที่ 63.75 บาท ลดลง 1.00 บาท (-1.54%)