ACAP-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 8.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 102.30 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7.95 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 8.40 บาท และราคาลงต่ำสุด 7.20 บาท
ขณะที่หุ้น ACAP ปิดที่ 10.40 บาท ลดลง 0.40 บาท (-3.70%) มูลค่าซื้อขาย 82.39 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10.40 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 10.70 บาท และราคาลงต่ำสุด 9.90 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ ACAP-W1 คาดว่าจะมี All-in Premium -9.6% จากสถานะที่ In The Money 440% ทำให้ได้รวมผลของ Dilution Effect 20% เข้าไปในประมาณการ
ในด้านความน่าสนใจในการลงทุนเมื่อเทียบกับหุ้นแม่ มองว่า ACAP-W1 มีความน่าเก็งกำไรค่อนข้างต่ำเนื่องจาก Gearing ที่ต่ำเพียง 1.4 เท่า เนื่องมาจากราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่าราคาหุ้นแม่ในกระดานมากทำให้มองว่า ACAP-W1 จะมีความน่าสนใจเฉพาะในกรณีที่ราคามีส่วนลดเท่านั้น
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 10.80บาท (19 ส.ค.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ ACAP-W1 ที่ 7.76 บาท และด้านผู้ได้รับ ACAP-W1 มีต้นทุนที่ 5.60 บาท โดยคำนวณจากส่วนต่างของวันก่อนและหลังการขึ้นเครื่องหมาย XW (9.55-8.15) พร้อมให้กรอบมูลค่า ACAP-W1 ไว้ที่ 7.32-8.20 บาท เมื่อราคาหุ้น ACAP เคลื่อนไหวในกรอบ 10.30-11.30 บาท โดยมี Volatility 51% per year
ACAP ให้บริการทางการเงิน ให้สินเชื่อ และการให้บริการธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดย ACAP-W1 มีจำนวนที่ออก 62.49 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 : 1 (ขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันที่ 30 พ.ค. 2016) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 2.00 บาท, อายุ 2 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันที่ 15 ของเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. (ใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 15 ธ.ค. 2016 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันหมดอายุ)