นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBS) ระบุว่า กลยุทธ์การลงทุนวันนี้เนื่องด้วยตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงของการพักตัว แต่แรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศช่วงพยุงตลาดไว้ จึงมองว่าการพักตัวรอบนี้จะดูไม่น่ากลัวและอาจจบลงในอีกไม่กี่วัน ซึ่งจะไปวัดกันที่ระดับ SET Index ที่ 1,530 จุดว่าจะประคองตัวหรือดีดตัวขึ้นได้หรือไม่
ดังนั้น จึงแนะให้ชะลอการลงทุน รอจังหวะซื้อหุ้นแบบจริงจังเมื่อมีสัญญาณกลับตัวหรือไปต่อของดัชนีฯ การลงทุนในระยะนี้ ยังต้องเลือกขายหุ้นบางตัวที่ขึ้นมามากและขาดปัจจัยบวกเพียงพอ เน้นเล่นสั้นๆ ไว้ก่อน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,530-1,547 จุด หุ้นที่แนะนำเก็งกำไรช่วงสั้น ประกอบด้วย AP,BCH,BJC,KSL,WICE
ทั้งนี้ ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ยังคล้ายกับเมื่อวาน คือมีปัจจัยที่ส่งผลตลาด 2 เรื่อง คือ โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และทิศทางราคาน้ำมัน ปัจจัยตัวแรกคือ ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ตลาดเริ่มตอบสนองต่อเรื่องนี้แล้ว Fed Fund Rate Probability ของการประชุมครั้งถัดไป 20-21 ก.ย. ขยับขึ้นอีกเล็กน้อย มาอยู่ที่ 24% บ่งชี้ว่าโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยกำลังสูงขึ้น ค่าเงินดอลล่าร์ขยับขึ้น ราคาสินทรัพย์ที่เป็นลบต่อทิศทางดอกเบี้ย มีการขายทำกำไรให้เห็น จึงเป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังปรับตัวรับมือหาก Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นมาจริงๆ แต่ถึงกระนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่ใช่จุดสิ้นสุดของตลาด แต่เพียงจะทำให้การลงทุนก่อนช่วงเวลาที่จะมีการประชุมนั้นจะมีการซื้อขายที่ระมัดระวังมากขึ้น
ขณะที่อีกปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันนั้น นอกจากแนวโน้มดอลล่าร์ที่จะแข็งค่า เป็นลบต่อราคาน้ำมันดิบแล้ว ราคาที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กระตุ้นให้มีการขายทำกำไรช่วงสั้นเกิดขึ้น ขณะที่ข่าวในเชิงบวกต่อราคาน้ำมันมีน้อยลง ซึ่งจะเป็นลบต่อหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี จะมีแรงขายทำกำไรตามราคาน้ำมันที่ร่วงลง ทั้งสองปัจจัยต่างประเทศนี้ มองเป็นตัวถ่วงตลาดในช่วงสั้นๆ สังเกตุได้จากแรงซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดเอเชียมีปริมาณที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ด้านปัจจัยในประเทศ จะเป็นเรื่องการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำสัปดาห์ เห็นว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การประชุมแต่ละครั้งจึงมักจะมีเรื่องที่บวกต่อตลาดอยู่บ่อยครั้ง และน่าจับตากระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนใน 5 อุตสาหกรรม (เกษตร ประมง ป่าไม้ เหมืองแร่ และอุตสาหกรรมการผลิต) ซึ่งจะทำให้การค้าการลงทุนคึกคักขึ้น และอาจมีผลต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนั้นๆ
นอกจากนี้ ตลาดเริ่มเข้าสู่เทศกาลขึ้นเครื่องหมาย “XD" เพื่อกำหนดสิทธิในเงินปันผล โดยวันนี้ จะมีหุ้นขึ้น “XD" ถึง 39 หลักทรัพย์ จะทำให้ราคาหุ้นที่เครื่อง “XD" อาจปรับตัวลงหลังผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิในเงินปันผล
"ภาพของตลาดหุ้นวันนี้ ยังถูกชี้นำด้วยปัจจัยต่างประเทศ ที่จะทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ขณะที่ข่าวในประเทศเอง มีออกมาไม่มากนัก ดัชนีฯจึงยังอยู่ในช่วงของการพักฐาน คาดว่าแกว่งในกรอบแคบๆ อาจปิดบวกหรือลบได้เล็กน้อย เช่นเดียวกับวันก่อน"นายวิน กล่าว