นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เออีซี (AECS) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบที่ 1,590 จุด จากปัจจัยหนุน 4 ปัจจัย ประกอบด้วย
ปัจจัยแรก แนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าแม้มีประเด็นลบ โดยค่าเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นมาที่ 34.62 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีปัจจัยหนุนทั้งจากต่างประเทศ ได้แก่ นโยบายการเงินของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วยังต้องสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Positive Monetary Condition) โดยเฉพาะ Fed และปัจจัยบวกในประเทศจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ปัจจัยที่ 2 เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดและเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของทั้งภาคบริโภค โดยเห็นการฟื้นตัวของภาคการบริโภค ซึ่งเกิดจากการฟื้นตัวของรายได้ภาคการเกษตรหลังจากรายได้เกษตรกรเริ่มปรับเพิ่มขึ้น, การฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ รวมถึงคอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
ปัจจัยที่ 3 คือโครงการประมูลภาครัฐฯ ทางรัฐบาลจะเปิดประมูลรถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่มูลค่า 1.58 แสนล้านบาท ใน 3 โครงการรถไฟฟ้า และ 1 โครงการ Double Track ที่คาดว่าจะประกาศผลการประมูลในช่วงไตรมาส 4/58 นั้น จะช่วยผลักดันการลงทุนให้เกิดขึ้นอย่างเด่นชัดซึ่งโครงการประมูลที่เกิดขึ้นในปีนี้จะเป็นการเบิกจ่ายในปี 59
และปัจจัยสุดท้าย บริษัทจดทะเบียนเริ่มมีการปรับเพิ่มผลการดำเนินงานในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มที่มีสัญญาณของการปรับเพิ่มผลการดำเนินงานมาจากลุ่มรับเหมาฯ, กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มอาหาร(เครื่องดื่มและเนื้อสัตว์)
ดังนั้น บริษัทแนะนำลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม Food ที่มีการประกาศผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง ได้แก่ GFPT,CBG, บริษัทที่คาดว่าผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คือ BR และอุตสาหกรรมรับเหมาฯ ร่วมลุ้นผลประมูล 4 โครงการรัฐฯที่เหลือของปี ซึ่งบริษัทเล็งในกลุ่มรับเหมาฯ ที่มีลุ้นผลการประมูลอย่าง CK, UNIQ, SYNTEC และกลุ่มวางฐานราก ได้แก่ PYLON, SEAFCO
อีกทั้งยังแนะนำเพิ่มเติมให้เลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง, มีการปรับเพิ่ม ประมาณการณ์และราคาเป้าหมาย ได้แก่ CBG, LPH, EA, EPG, BJC