นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. โกลเบล็ก (GBS) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังของปี 59 มองว่าแนวโน้มธุรกิจการแข่งขัน ด้านธุรกิจหลักทรัพย์จะยังมีการแข่งขันด้านการลดค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทารัพย์อยู่เช่นเดิม แต่จะเริ่มมีการเพิ่มการให้บริการด้านต่าง ๆเพื่อเอาชนะใจลูกค้าให้ได้ดีขึ้น โดยการสร้าง Value added ลงไปในการให้บริการในหลากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการข้อมูลที่ตรงใจนักลงทุนมากขึ้น ให้บริการสินค้าที่หลายหลายเพิ่มเติมเป็นทางเลือกในการบริหารการลงทุน เช่น หุ้นกู้ กองทุนต่างๆ นอกจากนี้การให้บริการเครื่องมือที่เกี่ยวกับการลงทุนเพื่อเป็นเสริมให้นักลงทุนมีการตัดสินใจด้านการลงทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทาง บล.โกลเบล็ก ยังคงมุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาระบบการซื้อขาย Platform ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเน้น Platform ด้านออนไลน์ ทั้งหลักทรัพย์ และอนุพันธ์ เพิ่มเติม อาทิ efin TradePlus , Stock Radar รวมถึง ระบบการซื้อขายอนุพันธ์โดยเฉพาะ หรือ MT4 ซึ่งเริ่มมีการโปรโมทตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ผ่านมาและคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปลายปีนี้ในงาน SET in the City ซึ่งสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ การลงทุนของนักลงทุนได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนในการให้บริการข้อมูล เช่น efin Mobile(Cloud) ,Aspen for Browser อีกด้วย
“สำหรับการนำ Trading Platform ใหม่ ๆ ทั้งสำหรับตลาดหุ้น อย่าง Stock Radars หรือสำหรับตลาด TFEX อย่าง MT4 ก็เป็นการเพิ่มการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่ง Platform ต่างๆที่ทางบริษัทฯนำมาให้นักลงทุนใช้งานจะมีประโยชน์และผลลัพธ์ที่เหมาะกับความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างจากโปรแกรมเดิมๆที่เรามีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น Streaming, Efin Trade Plus, และ IFIS" นายธนพิศาล กล่าว
พร้อมกันนี้ บล.โกลเบล็ก ยังคงต่อยอดในเรื่องการเป็นผู้สนับสนุนหลักโครงการ “SUPER TRADER THAILAND SEASON 3" ติดต่อกัน 3 SEASON เนื่องจากมองว่าโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่สอนให้กลุ่มนักลงทุน ที่เข้าร่วมประกวดในโครงการได้เรียนรู้ทักษะการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างถูกต้อง และสามารถผลิตนักลงทุนหน้าใหม่ ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นทางบล.โกลเบล็ก จึงเล็งเห็นว่าโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้านการลงทุน ทางบริษัทฯจึงยินดีร่วมเป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ทางบล.มีการตั้งเป้าจำนวนยอดผู้สมัครไว้ที่ระดับ 1,200-1,500 ราย
“ ปีนี้เราตั้งเป้าผู้สมัครไว้ที่ 1,200-1,500 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้สมัครจะเพิ่มสูงขึ้นทุก SEASON จาก SEASON 1 มีผู้สมัคร 700 ราย, SEASON 2 มีผู้สมัครเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,000 ราย ดังนั้นใน SEASON จึงมั่นใจว่า จะมียอดผู้สมัครที่ 1,500 ราย และที่สำคัญในปีนี้จะมีการเพิ่มการเทรด TFEX เข้ามาด้วย เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา มีนักลงทุนที่มาสมัครส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ ซึ่งนักลงทุนหน้าใหม่ส่วนใหญ่จะรับความเสี่ยงได้สูง เราจึงมีความคิดที่จะจับกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้เข้ามาสอนเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และอีกอย่างในปีนี้เราจะไม่มีการคัดคนออกในรอบแรก โดยจะแบ่งจากผู้สมัครทั้งหมด เข้ามาแข่งเทรดหุ้นในช่วง 3 เดือนแรก และ 3 เดือนถัดมาจะเป็นการเทรด TFEX เพิ่มเติมด้วย ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะเข้ารอบได้ด้วยความสามรถของตัวเอง โดยอาจจะเข้าด้วยการเทรดหุ้น Warrant, DW28 หรือจาก TFEX ก็ได้" นายธนพิศาล กล่าว