บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ทุ่ม 60,000 ล้านบาทในการสร้างศูนย์การค้าใหม่ 5 แห่งและปรับโฉมศูนย์การค้าเดิมอีก 5 แห่งในแผนธุรกิจ 3 ปี (59-61) พร้อมตั้งเป้าภายในปี 61 จะมีศูนย์การค้ามากกว่า 34 แห่ง พื้นที่รวมกว่า 8 ล้านตร.ม. ขณะที่นำร่องโครงการต่างประเทศประเดิมที่มาเลเซีย ที่จะเปิดให้บริการภายในปี 61 ขณะที่ศึกษาเปิดศูนย์การค้าในเวียดนามและอินโดนีเซีย
สำหรับศูนย์การค้าแห่งใหม่ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนก.ค.59 , เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา, เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย, เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ในมาเลเซีย และศูนย์การค้าเดิม ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซา พัทยา, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 และ เซ็นทรัลเวิลด์
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ CPN กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯยังคงเป้ารายได้รวมเติบโต 15% จากปีก่อนที่ 25,872 ล้านบาท แม้ในช่วงครึ่งปีแรกจะมีรายได้เติบโตเกินกว่าเป้าหมาย รวมถึงประเมินภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกก็ตาม
ขณะที่บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 2-3 ประเทศ เบื้องต้นคงจะเปิดเป็นศูนย์การค้า โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งเวียดนามศึกษาแล้วตอนนี้พร้อมมากขึ้น ส่วนประเทศอื่นในแถบเอเชียก็ศึกษา ซึ่งก็ต้องดูจังหวะลงทุนด้วย โดยต่างประเทศต้องหาพันธมิตรท้องถิ่นที่ดีจึงจะมั่นใจที่จะเข้าไปลงทุน
"จากการประเมินเศรษฐกิจและกำลังซื้อครึ่งหลังเชื่อว่าจะดีกว่าครึ่งแรก ซึ่งจากการประกาศตัวเลข GDP ของประเทศในครึ่งแรกก็ถือว่าดีกว่าคาด ในแง่ของ CPN ครึ่งแรกมีคนเข้ามาใช้บริการของศูนย์การค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ศูนย์ฯต่างจังหวัดบางแห่งพบว่าคนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 10% ทั้งนี้ นอกจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นแล้วก็ยังเห็นได้จากยอดขายของร้านค้าดีขึ้นด้วย"นายปรีชา กล่าว
บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการแปลงกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ให้เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) คาดว่าจะสรุปภายในเร็ว ๆ นี้
"คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีนี้ แต่จะแล้วเสร็จทันปีนี้หรือเปล่ายังไม่ทราบ"นายปรีชา กล่าว
นายปรีชา กล่าวว่า สำหรับแหล่งเงินทุน 60,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายงานครั้งนี้จะมาจากเงินทุนหมุนเวียน โดยยังไม่จำเป็นต้องขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯเพิ่ม โดยเงินลงทุน แบ่งเป็น โครงการเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา 10,000 ล้านบาท, เซ็นทรัลภูเก็ต แห่งที่ 2 มูลค่า 20,000 ล้านบาท ,เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ในมาเลเซีย 8,500 ล้านบาท, เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย 4,750 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับโฉม 5 โครงการเดิม
สำหรับโครงการที่จะเปิดให้บริการปี 60 ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย มีพื้นที่ 100 ไร่ ราว 1.7 แสนตารางเมตร เฟสแรกจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้าก่อน และอยู่ระหว่างศึกษาเป็นโครงการมิกยูส มองทั้งเรสซิเดนท์เชียล คอมเมอร์เชียล เป็นการพัฒนาต่อเนื่อง เพราะเมืองมหาชัย เป็นการขยายจากกรุงเทพฯไป เป็นจุดเริ่มต้นแหล่งท่องเที่ยว และเส้นพระรามมีทราฟฟิก (คนเดินทาง)สูงมาก โดยภายในศูนย์ฯจะแบ่งพื้นที่ 10,000 ตร.ม.เป็นซีฟูดสฺมาร์เก็ต ที่คับคั่งด้วยอาหารทะเลสด โดยตั้งเป้าคนเดิน 30,000 คน/วัน
เซ็นทรัล ภูเก็ต เป็นเมกะโปรเจคระดับเวิลด์คลาสมูลค่า อยู่ใจกลางเกาะภูเก็ต ตั้งเป้าคนเดิน 40,000 คน/วัน และเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ซึ่งทั้งสองโครงการจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 60
ส่วนโครงการเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ศูนย์การค้าในต่างประเทศแห่งแรกของบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ในมาเลเซียนั้น เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท และบริษัท ไอ-เบอร์ฮาด ผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของมาเลเซีย โดยในโครงการมีทั้งพื้นที่เพื่อการค้า อาคารพาณิชย์ ไซเบอร์ออฟฟิศ ศูนย์ข้อมูลไซเบอร์เซ็นเตอร์ของซิสโกคอมพิวเตอร์ ที่พักอาศัย และแอทแทรคชั่นเพื่อการท่องเที่ยว เตรียมเปิดให้บริการภายในปี 61