ASP คาดผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก หลังรายได้โบรกเกอร์ฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 25, 2016 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (ASP) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 1.11 พันล้านบาท และกำไร 306 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นผลจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage) ฟื้นตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี จากทิศทางตลาดหุ้นไทยที่มองว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากประเด็นการออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปของังกฤษ (Brexit) มีบทสรุป ส่งผลให้มีกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่อีกครั้ง ทั้งไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ เพราะเป็นตลาดที่ยังให้ผลตอบแทนที่ดี และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับยุโรป และนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นในตลาดจีน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก

สำหนรับสัดส่วนรายได้ปัจจุบันของบริษัทแบ่งเป็น ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 51% การลงทุน 17% ธุรกิจจัดการกองทุน 15% และธุรกิจวาณิชธนกิจและที่ปรึกษา 17%

ด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือทั้งสิ้น 58 ดีล แบ่งเป็นงานที่ปรึกษาการกระจายหุ้นและนำบริษัทเข้าจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) จำนวน 27 ดีล ซึ่งมีแผนทยอยเข้าจดทะเบียนตั้แต่ปี 60 เป็นต้นไป และงานที่ปรึกษาอื่นๆ เช่น การซื้อกิจการ การร่วมทุน การออกหุ้นกู้ และการออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) อีก 31 ดีลย โดยคาดว่ามูลค่าการออกหุ้นกู้และตั๋ว B/E ในปีนี้จะมากกว่าปี 58 ที่มีมูลค่า 1 แสนล้านบาท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ และผลตอบแทนสูงกว่าการฝากออมทรัพย์

นายก้องเกียรติ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังว่า ยังเป็นทิศทางขาขึ้นจากกระแสเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง จากการประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่มีโอกาสปรับขึ้นในช่วงต้นปีหน้า นอกจากนี้ การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเป็นปัจจัยที่ดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ขณะที่การท่องเที่ยวยังเป็นจุดขายที่สำคัญในการดึงเงินจากนักท่องเที่ยวเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวขึ้น

“ปัจัจัยที่ต้องจับตาในเร็วๆนี้เป็นเรื่องถ้อยแถลงของประธานเฟดในวันศุกร์นี้ว่าจะออกมาเป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อทิศทางของกระแสเงินทุนว่าจะเข้ามาต่อหรือไหลกลับไปที่ตลาดที่ดีอยู่ คือ ตลาดหุ้นอเมริกา หากเฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยก็จะเป็นปัจจัยที่หักเหทิศทางขาขึ้นของตลาดหุ้นไทย เพราะเงินจะไหลออกไป แต่จริงๆแล้วเฟดเขาก็อยากขึ้นดอกเบี้ยอยู่แล้ว แต่มีประเด็น Brexit เข้ามาก่อนทำให้ชะลอการขึ้นออกไป ถ้าไม่ขึ้นปีนี้ก็คงขึ้นปีหน้าเลย"นายก้องเกียรติ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ