นายบุญเลิศ ใจมั่น ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้มีแนวโน้มเติบโต 25-30% มาอยู่ที่ 15,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย จากปีก่อนที่มีรายได้ 11,000 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้ปีนี้จะมาจากธุรกิจ ICT ประมาณ 9,500 ล้านบาท และธุรกิจ Trading ประมาณ 3,500-4,000 ล้านบาท , ธุรกิจบริการ (service) ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท และธุรกิจร่วมทุนจำนวนหนึ่ง
ขณะที่บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 3-4% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 58 ที่อยู่ในระดับ 1.7% และสูงกว่าระดับปัจจุบันที่มีอัตรากำไรสุทธิราว 2.5-3% โดยบริษัทตั้งเป้าหมายในระยะยาวจะรักษาการทำอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ระดับเดียวกับก่อนหน้านี้ที่ 3-4%
สำหรับธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตที่ดีในปีนี้ โดยเฉพาะธุรกิจเทรดดิ้งที่มีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบัน บริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 9,800 ล้านบาท ซึ่งแบ่งออกเป็นงานโทรคมนาคมและไอทีจำนวน 2,200 ล้านบาท งานประเภทโรงไฟฟ้าจำนวน 1,900 ล้านบาท , งานบรอดคาสท์และยูทิลิตี้ จำนวน 1,600 ล้านบาท และงานด้านเทคโนโลยี จำนวน 600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 44% และจะทยอยรับรู้ฯ ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 60
นายบุญเลิศ กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายในแผนระยะยาวที่จะผลักดันรายได้ให้เติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี โดยเป็นไปตามงานประมูลงานโครงการของภาครัฐที่คาดจะเริ่มเพิ่มขึ้นต่อจากนี้
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้บริษัทจะเข้าประมูลงานมูลค่า 17,463 ล้านบาท ที่จะทยอยรู้ผลไปถึงปี 60 แบ่งเป็นงานประเภทไอที 3,250 ล้านบาท , งานด้านเทคโนโลยี 7,666 ล้านบาท , งานโทรคมนาคม 1,468 ล้านบาท ,โรงไฟฟ้า 1,808 ล้านบาท ,บรอดคาสท์และยูทิลิตี้ 2,700 ล้านบาท และงานวัสดุก่อสร้าง 577 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะได้รับงานทั้งสิ้น 50% ของมูลค่าทั้งหมดที่เข้าประมูล
"งานที่เราให้ความสำคัญ คือ งานรถไฟฟ้าสายสีแดงในการทำระบบอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 512 ล้านบาท ,งานรถเมล์ไฟฟ้าขสมก. 200 คัน มูลค่า 950 ล้านบาท , งานเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ของโรงงานยาสูบ 480 ล้านบาท ,งานโครงข่ายดิจิทัลทีวี เฟส 3 มูลค่า 1,030 ล้านบาท ,งานพาวเวอร์ ซับสเตชั่น ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 775 ล้านบาท และงานวัสดุก่อสร้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่า 528 ล้านบาท"นายบุญเลิศ กล่าว
ส่วนโครงการรถเมล์ไฟฟ้าขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทื่บริษัทเคยส่งรถเมล์ไฟฟ้าให้ ขสมก.ทดลองใช้นั้น นายบุญเลิศ กล่าวว่า ทาง ขสมก.น่าจะสามารถสรุปข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR) เพื่อจัดซื่อรถเมล์ไฟฟ้าได้ในช่วงไตรมาส 3/59 หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ ขสมก. เร่งจัดซื้อล็อตแรกจำนวน 200 คันภายในปีนี้ มูลค่าทั้งสิ้นราว 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมั่นใจในจุดแข็งจากการที่มีพันธมิตรจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถโดยสารไฟฟ้า
ขณะที่โครงการจำหน่ายสลากผ่านเครื่องอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) นั้น ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการติดตามโครงการดังกล่าว หลังจากสำนักงานสลากฯ สามารถควบคุมราคาขายสลากที่ฉบับละ 80 บาท และดูแลเรื่องโควต้าการขายได้แล้ว เชื่อว่าจะมีการผลักดันโครงการหวยออนไลน์ให้เร็วที่สุด