โบรกฯแนะ"ซื้อ" BCH มองปี 59-60 เป็นช่วง turnaround,WMC หนุนกำไรแกร่งโตต่อเนื่องอีกหลายปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 26, 2016 16:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) มองว่ายังคงอยู่ในช่วงของการ turnaround ในปี 59-60 เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงพยาบาลเดิม และผลการดำเนินงานของ World Medical Center (WMC) ฟื้นตัวต่อเนื่องจากคนไข้ต่างชาติ การปรับขึ้นอัตราค่ารักษาพยาบาลใน มิ.ย.59 ราว 5-10%

และช่วงไตรมาส 3/59 คาดจะเป็นพีคของกำไรจากเข้าสู่ High Season ในแง่ปัจจัยพื้นฐานมีแนวโน้มเติบโตจากลูกค้าชาวไทยทั้งเงินสดและประกันสังคม และลูกค้าต่างชาติ หนุนกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดในช่วง 2 ปีนี้

หุ้น BCH ช่วงบ่ายไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 11.50 บาท นับแต่ต้นปีราคาหุ้นปรับขึ้นราว 27% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นราว 21%

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)          ซื้อ                    14.70
          บล.โมนูระ พัฒนสิน              ซื้อ                    14.50
          บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ซื้อ                    14.00
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส              ซื้อ                    14.00
          บล.เออีซี                     ซื้อ                    13.70
          บล.กรุงศรี                    ซื้อ                    13.5

น.ส.รัศดา ทวีแสงสกุลไทย นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 14.70 บาท ประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 59 ไว้ที่ 683 ล้านบาท ขยายตัว 29.5% จากปีก่อน จากการประเมินอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นมาที่ 31.7% จาก 30.8% ในปี 58 โดยคาดการณ์รายได้จากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 6,468 ล้านบาท โต 12.2% จากปีก่อน

แม้กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกจะยังไม่โดดเด่นมากนัก แต่ด้วยแนวโน้มของโรงพยาบาล WMC ที่ค่อนข้างมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ทำให้อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBlTDA Margin) ของโรงพยาบาลดังกล่าวมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 3 นี้ อีกทั้งแนวโน้มผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลในเครืออื่น ๆ ที่ยังเติบโตดีต่อเนื่อง ทำให้เชื่อได้ว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

น.ส.มินทรา รัตยาภาส นักวิเคราะห์อาวุโส บล.โมนูระ พัฒนสิน แนะ"ซื้อ"ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 14.50 บาท คาดครึ่งหลังปีนี้มีปัจจัยบวกจากปรับราคาและรับรู้เงินประกันสังคม จากกำไรสุทธิครึ่งแรกคิดเป็น 47% ของทั้งปี ยังคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ที่ 668 ล้านบาท เติบโต 27% จากปีก่อน

โดยแนวโน้มไตรมาส 3/59 คาดกำไรสุทธิเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อน ตามผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มเงินสดและประกันสังคม ประกอบกับผลบวกจากการปรับขึ้นค่าบริการจากค่ายาเฉลี่ย 5-10% คาดว่าจะรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มจากประกันสังคมที่เลื่อนจากไตรมาส 2/59 ทำให้รายได้ในครึ่งหลังนี้เติบโตดีกว่าครึ่งแรก

ส่วนปี 60 คาดกำไรสุทธิ 867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% มีปัจจัยบวกจากรายได้เติบโตตามผู้ใช้บริการรวมทั้งผลการดำเนินงานของ WMC ดีต่อเนื่องจากปี 59

"ชอบปัจจัยพื้นฐาน BCH เนื่องจากมองว่าผลการดำเนินงานของเครือโรงพยาบาล มีแนวโน้มเติบโตจากจำนวนลูกค้าชาวไทยทั้งเงินสดและประกันสังคม และลูกค้าต่างชาติ รวมทั้งมีจุดเด่นในการบริหารต้นทุนให้บริการลูกค้าโครงการรัฐ ทำให้ความสามารถในการทำกำไรระยะยาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปีนี้ยังเติบโตได้เหมือนเดิม โดยคาดผลประกอบการครึ่งหลังดีกว่าครึ่งแรก เพราะครึ่งหลังยังโตได้จากฐานผู้ใช้บริการประกันสังคมที่น่าจะมีส่วนเพิ่มเข้ามาในครึ่งหลัง ปีนี้ยังคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล"น.ส.มินทรา กล่าว

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะ"อ่อนตัวซื้อ"ราคาเป้าหมาย 14.30 บาท มอง BCH ยังคงอยู่ในช่วงของการ turnaround ในช่วงปี 59-60 คาดว่า WMC จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยฟื้นผลประกอบการปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น คาดว่ารายได้หลักจากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติจะมาจากผู้ป่วยชาวโอมาน จีน และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นพัฒนาการในด้านบวกของบริษัทหลังจาก BCH ได้ดำเนินการด้วย premium brand มาแล้ว 3 ปี โดย WMC มีแผนการขยายฐานผู้ป่วยชาวการ์ต้าเพิ่มขึ้นในปีนี้ ผ่านการทำสัญญาไว้กับสถานทูตการ์ต้า ทำให้คาด WMC จะมีผลขาดทุนลดลงในปี 59 เหลือแค่ 150 ล้านบาท จากระดับ 287 และ 243 ล้านบาทในปี 57-58

โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 59-60 เอาไว้ที่ 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% และ 856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% กำไรสุทธิในครึ่งแรกคิดเป็น 43% ของทั้งปี ส่วนในครึ่งหลังคาดว่ากำไระเร่งตัวขึ้นจากครึ่งแรกโดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการปรับขึ้นอัตราค่ารักษาพยาบาลในเดือนมิ.ย. และผลการดำเนินงาน WMC ที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง

"มอง outlook ในเชิงผลการดำเนินงานปีนี้ดีจะเห็นการเติบโต EPS ในระดับ 38% และปี 60 คาดเห็นการเติบโตอีก 17% เป็นการเติบโตจากโรงพยาบาลเดิมที่มีอยู่ ซึ่งในปี 60 คงไม่เห็นประเด็นการเข้าซื้อกิจการของ BCH น่าจะเป็นการโตจากโรงพยาบาลเดิม และบทบาทหลัก WMC ซึ่งคาดว่าปี 60 น่าจะเป็นกำไรสุทธิ ขณะที่มีการปรับราคาค่ารักษาพยาบาลเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมิ.ย.59 ราว 5% ซึ่งก็จะมีผลในไตรมาส 3 ขณะที่รายได้ค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเดิมเติบโตเฉลี่ย 10% ส่วนปี 60 การเติบโตน่าจะมาจากการขยายตัวของโรงพยาบาลเดิม และที่สำคัญสุดการฟื้นตัวของ WMC ปี 60 น่าจะเห็นกำไร ส่วนปีนี้ครึ่งหลังน่าจะเติบโตกว่าครึ่งแรกเพราะครึ่งแรกเจอ low season แต่ก็ยังทำได้ค่อนข้างดี"นายปริญทร์ กล่าว

บทวิเคราะห์ บล.เออีซี มองว่า กำไรของ BCH ช่วงครึ่งแรกปีนี้ คิดเป็น 46.6% ของประมาณการทั้งปี และยังคงประมาณการเดิม เนื่องจากปกติช่วงครึ่งหลังปีนี้กำไรจะดีขึ้นจากการเข้าสู่ High Season ทำให้มีผู้ป่วยมารักษาด้วยโรคตามฤดูกาลสูง บวกกับช่วงไตรมาส 3/59 จะมีการรับรู้รายได้ภาระเสี่ยงประกันสังคมที่เลื่อนรับรู้มาไตรมาสนี้แล้ว

อีกทั้ง WMC ยังมีโมเมนตัมผลดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และ BCH ยังมีแผนเพิ่มการให้บริการต่อเนื่อง โดยช่วงไตรมาส 3/59 เกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์เพิ่ม 10 ห้อง OPD,เกษมราษฎร์ฉะเชิงเทราเพิ่ม 10 ห้อง OPD จึงคาดปี 59 จะมีกำไรสุทธิ 670 ล้านบาท โต 27.1% และคาดโตต่อปีละ 12.9% ในปี 60-61 หลังมีแผนขยายธุรกิจโรงพยาบาลต่อเนื่อง เช่น อัพเกรดคลินิกแม่สายเป็นทุติยภูมิ คาดเปิดบริการช่วงไตรมาส 3/60 ,เปิดโรงพยาบาลใหม่เกษมราษฎร์ รามคำแหง รูปแบบทุติยภูมิที่สุขาภิบาล 3 (139 เตียง) คาดว่าจะเปิดบริการปลายปี 60 และเปิดโรงพยาบาลทุติยภูมิที่เชียงของ (30 เตียง) ในปี 61

จากผลกำไรที่ยังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น อีกทั้งล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรช่วงครึ่งแรกปีนี้ที่หุ้นละ 0.07 บาท กำหนดวันขึ้น XD 26 ส.ค.และจ่ายเงินปันผล 13 ก.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ