นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสอ่อนตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเฉลี่ย 0.1-0.2% ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นบวกขึ้นมาจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของทางญี่ปุ่น
ตลาดหุ้นภูมิภาคตอบรับโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สูงขึ้น หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด แถลงในการประชุมประจำปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป นับเป็นการส่งสัญญาณออกมาแสดงให้เห็นแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อีกทั้งเฟดกำลังติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ด้วย ดังนั้น ตลาดฯจึงยังคลุมเครืออยู่
พร้อมให้แนวรับ 1,538-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ส.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,395.40 จุด ลดลง 53.01 จุด (-0.29%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,218.92 จุด เพิ่มขึ้น 6.72 จุด (+0.13%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,169.04 จุด ลดลง 3.43 จุด (-0.16%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 8.86 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.85 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 14.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 5.34 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.85 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 270.35 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ส.ค.59) 1,549.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.31 จุด (+0.34%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 690.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ส.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ส.ค.59) ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ส.ค.59) ที่ 6.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.60 แนวโน้มอ่อนค่า ขานรับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
- การประกาศนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่รัฐบาลวางเป้าหมายให้ขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต เริ่มได้รับแรงสนับสนุนจากภาคเอกชนมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีความชัดเจนในการ วางเป้าหมายและมาตรการสนับสนุนการลงทุน
- อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้กรมศุลกากรสางคดีเจ้าหน้าที่และผู้บริหารกรมศุลกากรที่เข้าไปเกี่ยว ข้องกับคดีทุจริตหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะคดีใหญ่ๆ ให้เสร็จภายใน 3 เดือน หลังจากมีการสอบมานานหลายปีแต่ไม่ได้ข้อสรุป
- คมนาคมเร่งกรมทางหลวงถกการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หาข้อสรุปสร้างสายสีเขียวข้ามโทลล์เวย์ หวั่นกระทบประชาชน จี้ศึกษาจุดเชื่อมขึ้น-ลงสถานีกลางบางซื่อให้ชัดเจน
- สคร.คุยผลจากการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจได้เพิ่ม 10% ช่วยหนุนจีดีพีโต 3.5% เดินหน้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่อ พร้อมเร่งฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหา ขณะที่ยอมรับปีนี้เศรษฐกิจโตไม่ได้ถึง 4-5% เหตุมูลค่าลงทุนภาครัฐมีสัดส่วนแค่ 6% ของจีดีพี
*หุ้นเด่นวันนี้
- TMT (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 14.7 บาท คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 12.2% 2) แนวโน้มราคาเหล็กเริ่มฟื้นตัว และผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมคาดพักฐานเสร็จ ประเมินปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 13.6 บาท และ 14 บาท ตามลำดับ แนวรับ 12.8 บาท
- KTC (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 160 บาท อุปสงค์ในประเทศฟื้นตัวขึ้น และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะเอื้อให้การเติบโต เร่งตัวขึ้นในระยะต่อไป ขณะที่บริษัทสามารถคุมความเสี่ยงด้านการบริหารสินทรัพย์ได้ดีในช่วง 57 ถึง H1/59 น่าจะทำให้มั่นใจว่าขั้นตอนและแนวทางรัดกุมพอ ทั้งนี้ จากนโยบายที่อนุรักษ์นิยมทำให้ใช้สมมติฐานว่าจะกำหนด credit cost คงที่ หากสามารถลด credit cost ลงได้ทุกๆ 50bps ก็จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% จากแนวโน้มกำไรที่เร่งตัวขึ้นทำให้ re-rate P/E ขึ้นเป็น 15x (จากเดิม 13.5) คิดเป็น PEG ที่ 0.75x
- PACE (โกลเบล็ก)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า consensus 4.85 บาท วันนี้ (29 ส.ค.) เตรียมจัดการแสดง Light Show ฉลองโครงการมหานครคอนโดฯหรูสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยที่สร้างเสร็จแล้ว เป็นมิกซ์ยูสมีทั้งโรงแรม ที่พักอาศัย และศูนย์การค้า คาดเห็นการโอนจริงจังช่วงครึ่งหลังของปีนี้ช่วยหนุนผลดำเนินงานปีนี้พลิกมีกำไรหรือขาดทุนน้อยลงจากที่ขาดทุนติดต่อกัน 3 ปีตั้งแต่ปี 56- 58 โดยขาดทุน 795, 381 และ 1,785 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนที่พักอาศัยมีจำนวน 209 ยูนิตมูลค่ารวม 14,500 ล้านบาท มียอดจองแล้ว 70%
- MINT (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 48 บาท เชื่อผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วใน Q2/59 และคาดว่าจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งในครึ่งปีหลังโดยใน Q3/59 จะได้รับอานิสงส์จาก High Season โรงแรม Tivoli ในโปรตุเกส ล่าสุดอัตราเข้าพักปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 90% จาก Q2/59 ซึ่งอยู่ที่ราว 70% ขณะที่ Q4/59 มีโอกาสเห็นกำไรทำจุดสูงสุดใหม่และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ส่วนเหตุระเบิดแทบไม่กระทบ ยังคงคาดการณ์กำไรปกติปี 59 และ 60 โต 14.4% Y-Y และ 20.2% Y-Y ตามลำดับ
- BLA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 51 บาท ได้ประโยชน์จากกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ล่าสุด 15Y Zero-Coupon Yield ปรับขึ้นมาที่ 2.61% จาก 2.58% ในสิ้น 2Q16 ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อ Discount Rate ในการคำนวณภาระหนี้สินตามกรรมธรรม์ที่ต่ำลงลงแล้ว มีความเป็นไปได้ที่ BLA จะกลับรายการ LAT Reserve ที่เหลืออีกราว 800 ลบ. ใน 3Q16 ด้วย