ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,547.84 จุด ลดลง 1.57 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 25,230.18 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,553.56 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,542.17 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่ได้ให้สัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวเพียงว่า เงินเฟ้อ และตัวเลขด้านแรงงานได้เข้ามาอยู่ในระดับเป้าหมายของเฟดแล้ว พร้อมให้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรงวดเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้อีกที ซึ่งถ้าออกมาแข็งแกร่งก็มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้น โดยเฟดจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นนับตั้งแต่ก่อนที่ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความกังวลโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้มีมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดฯช่วงนี้คงจะแกว่งตัว และเป็นจังหวะที่จะต้อง Wait & See รอดูตัวเลขการจ้างงานอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้กันอีกที
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็จะเคลื่อนไหวในแดนลบ ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่อยู่ในแดนบวก หลังจากที่ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมากล่าวว่ายังสามารถที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มเติมอีก จึงเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น และทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีของญี่ปุ่น เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ได้ถูกผลกระทบจากเงินเยนแข็งค่ามาก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว พร้อมให้แนวฟิวเตอร์และแนวรับไว้ที่ 1,540-1,520 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,550 ถัดไป 1,560-1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,851.18 ล้านบาท ปิดที่ 7.75 บาท ลดลง 0.20 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,094.14 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
BLAND มูลค่าการซื้อขาย 894.28 ล้านบาท ปิดที่ 1.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท
CBG มูลค่าการซื้อขาย 876.34 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 792.55 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 1.00 บาท