SMT มั่นใจทั้งปีนี้พลิกมีกำไร แม้รายได้ต่ำกว่าปีก่อนตามการหดตัวของตลาด HDD

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 30, 2016 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพล วิไลวงศ์เสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) กล่าวว่า บริษัทฯมั่นใจปีนี้กลับมามีกำไรสุทธิอย่างแน่นอน จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิราว 55 ล้านบาท โดยในครึ่งแรกปีนี้ทำกำไรสุทธิแล้วราว 69 ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product) ที่เข้ามาเสริม ทำให้มาร์จิ้นสูง แม้ว่าในส่วนของรายได้ปีนี้คาดว่าจะทำได้ต่ำกว่าระดับ 7.67 พันล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากการลดลงของสินค้าในกลุ่ม Hard Disk Drive (HDD) ตามภาวะตลาดที่หดตัว และการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น ขณะที่รายได้จากสินค้าและบริการในธุรกิจการประกอบและทดสอบแผงวงจรไฟฟ้ารวม IC Packaging เพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มเห็นออเดอร์ทยอยเข้ามามากขึ้น ส่งผลให้การผลิตในปีนี้น่าจะเต็มกำลังการผลิตได้

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้น่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากที่บริษัทฯปรับตัวในการลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้ได้อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเลือกที่จะผลิตในสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง หรือผลิตสินค้าประเภท High value added เช่น IC Packaging, Wafer dicing ,Specialty ,Optical Component เป็นต้น โดยมีมาร์จิ้นมากกว่า 10% ขึ้นไป ทำให้สามารถปรับราคาสินค้าได้ถึงเท่าตัว อีกทั้งบริษัทฯยังคงตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่พึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่เพียงไม่กี่ราย

โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ทำให้คาดว่าน่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 60 ล้านบาทได้ทั้งหมด ในไตรมาส 3/59 ขณะที่เตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาจ่ายปันผลงวดปีบัญชี 59 หลังล้างขาดทุนสะสมได้หมด

นายพีระพล กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มในปี 60 สำหรับกลุ่มสินค้า IC Packaging ในอัตรา 30-40% และ Wafer dicing จะเพิ่มอีก 60-70% จากปัจจุบันเต็มกำลังการผลิตแล้ว เพื่อรองรับออเดอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเพิ่มเครื่องจักร เพื่อรองรับการผลิตในกลุ่มสินค้าใหม่ ๆ ด้วย โดยปกติเงินลงทุนในเครื่องจักรจะใช้ประมาณ 100 ล้านบาท

"ปีนี้เราต้องกำไรอย่างเดียวเท่านั้น และจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 4/59 เป็นต้นไป ทำให้ปีนี้บริษัทจะสามารถล้างขาดทุนสะสม 60 ล้านบาท ได้หมด จากมี New Product เข้ามาเสริม ทำให้มาร์จิ้นสูง ซึ่งมีมาร์จิ้นมากกว่า 10% ขึ้นไป"นายพีระพล กล่าว

นายพีระพล กล่าวอีกว่า การที่บริษัทฯได้ข้อสรุปการลงทุนโครงการลงทุนการผลิต Solar Panel ให้กับพันธมิตรที่สหรัฐ เฟสแรกขนาดกำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์/ปี และคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/59 โดยรายได้ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท และบริษัทมีแผนในการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 5 เท่าเป็น 200 เมกะวัตต์ ใน 2-3 ปีจากนี้ จากแผนการลงทุนที่วางไว้กับพันธมิตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ