โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) มองเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ขณะที่มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากศูนย์การค้าเดิมที่มีการปรับปรุงศูนย์ฯ ส่งผลให้มีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น และมีพื้นที่ปล่อยให้เช่าได้มากขึ้นด้วย รวมถึงยังดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามามากขึ้นด้วย ขณะเดียวกันยังเปิดตัวศูนย์การค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
ปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้เต็มปีจากศูนย์การค้าที่เปิดในปีที่แล้ว 3-4 แห่ง และยังจะรับรู้รายได้จากศูนย์การค้าที่เปิดใหม่อีก 1 แห่งในจ.นครศรีธรรมราช ขณะที่ปีหน้าจะเปิดศูนย์การค้าใหม่อีก 3 แห่งที่มหาชัย, โคราช และภูเก็ต เฟส 2 โดย CPN มีแผนธุรกิจที่จะเปิดศูนย์การค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยใน 5 ปีข้างหน้า จะเปิดศูนย์การค้ารวมประมาณ 15 แห่ง
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ในช่วง 9,000-9,300 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 7,880 ล้านบาท
สำหรับการเปลี่ยนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ไปเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ทาง CPN ก็จะได้ประโยชน์จากขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ได้เพิ่มขึ้น และกอง REIT สามารถเพิ่มทุนเพื่อมาซื้อโครงการจาก CPN ได้ด้วย เพราะเดิม CPNRF เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีการกู้ได้จำกัด เมื่อเปลี่ยนเป็นกอง REIT ก็จะมีความสามารถในการกู้ได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากองทุน CPNRF จะเปลี่ยนมาเป็นกอง REIT แล้วเสร็จอย่างเร็วในไตรมาส 2/60 ราคาหุ้น CPN อยู่ที่ 59.75 บาท ลดลง 0.25 บาท (-0.42%) เมื่อเวลา 15.09 น.
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ซื้อ 70 เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 70 ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 68 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 61.25 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 67 ไอร่า ซื้อ 68 คันทรี่ กรุ๊ป ซื้อลงทุน 66
น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า CPN มีรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากศูนย์การค้าเดิม ที่มีรายได้จากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นได้ และศูนย์การค้าใหม่ที่มีการเปิดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้แม้จะเปิดแค่ 1 สาขาที่นครศรีธรรมราช แต่ก็จะรับรู้รายได้เต็มปีจากศูนย์การค้าที่เปิดในปีที่แล้ว 4 แห่ง ทำให้รายได้เติบโตดี อีกทั้งยังมีรายได้จากสาขาปิ่นเกล้าที่ได้ปิดปรับปรุงในปีแล้ว มาปีนี้เปิดดำเนินการได้ก็จะมีรายได้เข้ามาซึ่งก็จะได้จากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นด้วย
ล่าสุด CPN มีการแถลงแผนธุรกิจซึ่งจะเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง ใน 5 ปีข้างหน้า จะเปิดประมาณ 15 โครงการ โดยในปี 60 จะเปิด 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการที่มหาชัย ในช่วงไตรมาส 4/60, โครงการที่โคราช และภูเก็ต เฟส 2 ด้วย รวมถึงจะมีการปรับปรุงโครงการเก่า ซึ่งหลังปรับปรุงเสร็จก็จะทำให้ได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นได้ และยังดึงลูกค้าเข้ามามากขึ้นด้วย
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 9,163 ล้านบาท เติบโต 16% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 7,880 ล้านบาท และในปี 60 กำไรสุทธิก็ยังเติบโตต่อเนื่องแต่ไม่โดดเด่น เพราะจะรับรู้รายได้จากโครงการที่เปิดใหม่ในปีนี้ได้เต็มปีในปีหน้า แต่ผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ดีอีกทีในปี 61 จากการรับรู้รายได้จาก 3 โครงการใหม่ที่เปิดในปี 60
นอกจากนี้การที่ CPN จะเปลี่ยนกองทุนรวม CPNRF ไปเป็นกอง REIT ซึ่งจะทำให้ได้รับประโยชน์ จากขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ได้เพิ่มขึ้น และกอง REIT สามารถเพิ่มทุนเพื่อมาซื้อโครงการจาก CPN ได้ด้วย เพราะเดิม CPNRF เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีการกู้ได้จำกัด เมื่อเปลี่ยนเป็นกอง REIT ก็จะมีความสามารถในการกู้ได้เพิ่มขึ้น
อนึ่ง CPN ถือ CPNRF ในสัดส่วน 26.69% (ข้อมูลจาก SET เมื่อ 9 ส.ค.2559)
ด้านนายโดม คุณประยูณสวัสดิ์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ให้เหตุผลที่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น CPN ว่า โดยหลักแล้ว CPN จัดเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีการเติบโตได้เรื่อย ๆ ในแต่ละปี โดยมาจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และรายได้จากศูนย์การค้าเดิม ซึ่งศูนย์การค้าเดิมนี้โดยปกติค่าเช่าจะสามารถปรับขึ้นได้ปีละ 35% ช่วงหลัง ๆ ก็จะมีการปรับปรุงพื้นที่ให้เช่า ซึ่งในช่วงปรับปรุงก็อาจจะกระทบต่อรายได้ในระยะสั้น แต่หลังปรับปรุงเสร็จแล้วก็จะสามารถขึ้นค่าเช่าได้ และยังสามารถมีพื้นที่ปล่อยให้เช่าได้มากขึ้นด้วย
สำหรับปีนี้ CPN มีการเปิดศูนย์การค้าแค่ที่นครศรีธรรมราชเท่านั้น แต่ในปีหน้า CPN มีแผนที่จะเปิด 3 ศูนย์การค้าใหม่ ที่โคราช, ภูเก็ต และที่มหาชัย
นอกจากนี้ CPN น่าจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยน CRNRF มาเป็นกอง REIT ด้วย จากที่เมื่อเป็นกอง REIT แล้ว จะทำให้สามารถเพิ่มทุนได้ ซึ่งก็เป็นทางหนึ่งในการระดมทุนของ CPN ที่จะนำโครงการไปขายเข้ากอง REIT ได้ ทั้งนี้คาดว่าจะจัดตั้งกอง REIT แล้วเสร็จอย่างเร็วในไตรมาส 2/60
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ของ CPN ไว้ที่ 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 58
ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น CPN โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 59 ไว้ที่ 9,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% จากปี 58 โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตมาจาก แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการดำเนินกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยดึงการช้อปปิ้งกลับคืนมา และหนุนจำนวนลูกค้าเข้าห้างของ CPN ทุกสาขาไปจนถึงสิ้นปี
นอกจากนี้ การเปิดสาขาใหม่อีกหนึ่งแห่งและการเปิดศูนย์การค้าที่ผ่านการปรับปรุงแล้วอย่างเต็มรูปแบบที่สาขาบางนา และพัทยา รวมถึงการที่ occupancy rate ของศูนย์การค้าที่เปิดใหม่ อย่างเช่น เซ็นทรัล Eastville ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนให้ยอดขายปี 59 เติบโตถึง 14.5% จากปีก่อน เป็น 27,800 ล้านบาท ในขณะเดียวกันการปรับปรุงศูนย์การค้าอย่างสม่ำเสมอ บวกกับการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ศูนย์การค้าได้ดีขึ้น และแนวโน้มการขึ้นค่าเช่าพื้นที่ จะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นอีก 100 bps เป็น 49%
ส่วนบล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้น CPN ที่ราคาเป้าหมาย 68 บาทจากแนวโน้มการเติบโตอย่างยั่งยืน โดย CPN ประกาศแผนการลงทุนใหม่ในเซ็นทรัล มหาชัย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ โดยมีกำหนดจะเปิดให้บริการใน ไตรมาส 3/60 ส่วนโครงการปรับปรุงเซ็นทรัล เวิลด์ น่าจะกระทบรายได้จากการให้เช่าของ CPN ในปี 60 โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นจากการต่ออายุสัญญาเช่าระยะยาว ที่จะครบกำหนดในปี 62-63 พร้อมคาดประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษจากการขายสินทรัพย์ให้กับ REIT ในปี 60