นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าการศึกษาเข้าร่วมทุนเพิ่มเติมกับพันธมิตรรายเดิมในเมียนมา เพื่อต่อยอดธุรกิจ LPG ทั้งการก่อสร้างคลังก๊าซ , ท่าเรือ และโรงบรรจุก๊าซ รวมไปถึงการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 1 แห่ง จะสามารถเห็นความชัดเจนได้ปลายปีนี้
สำหรับการเข้าประมูลงานสร้างคลังบรรจุ LPG ในเมียนมานั้น ขณะนี้ทางรัฐบาลเมียนมาร์ได้มีการยกเลิก หลังจากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็ยังอยู่ระหว่างรอการเปิดประมูลรอบใหม่ ซึ่งบริษัทยืนยันว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน เนื่องจากไม่ได้นำมารวมแผนงานดังกล่าวไว้ในคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัท
ในปี 59 นี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายปริมาณการขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เติบโตประมาณ 5% มาอยู่ที่ 3 ล้านตัน จากปีก่อนอยู่ที่ 2.8 ล้านตัน เนื่องจากตลาดต่างประเทศยังขยายตัวได้ดี แม้ว่าความต้องการใช้ก๊าซในประเทศจะเติบโตเพียงเล็กน้อย โดยสัดส่วนยอดขายของบริษัทจะมาจากการจำหน่ายในประเทศ 42% และการจำหน่ายต่างประเทศ 58%
ขณะที่บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ตามความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตดีขึ้นเล็กน้อย รวมถึงตลาดในต่างประเทศยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าราคาขายปรับตัวลดลง โดยในช่วงไตรมาส 2/59 ราคาขายอยู่ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 23.96 บาทต่อกิโลกรัม แต่บริษัทยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ไว้ในระดับเดิมได้
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/59 บริษัทฯจะมีการรับรู้กำไรบางส่วนจากการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ขนาด 230 เมกะวัตต์ ในประเทศเมียนมา มูลค่าโครงการ 1,688.16 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 30% ด้วยเงินลงทุน 48 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการชำระไปแล้ว 24 ล้านเหรียญสหรัฐ และในเดือน พ.ย.59 จะชำระส่วนที่เหลืออีก 24 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเงินลงทุนจะมาจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันทางการเงิน 65 % และอีก 35 % มาจากเงินทุนของบริษัท
นางจินตณา กล่าวว่า การลงทุนในโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะสร้างกำไรต่อปีราว 180 ล้านบาท และน่าจะใช้ระยะเวลาในการคืนทุนได้ภายใน 8 ปีจากนี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่ออัตรากำไรสุทธิปีนี้ให้ดีกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.99%
ทั้งนี้ SGP ให้บริษัท SIAM GAS POWER PTE. LTD. หรือ SPW ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนเป็นผู้เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าดังกล่าว