"หยวนต้า"คัมแบ็คบุกไทยวางเป้าขึ้น Top 5 หวังใช้เป็น Hub สยายปีกคลุมอาเซียน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 1, 2016 12:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

"หยวนต้า"หวนกลับคืนสู่สังเวียนตลาดหุ้นไทยหลังเข้าเทคฯ บล.เคเคเทรด (ประเทศไทย) ดีเดย์เปลี่ยนป้ายชื่อเป็น บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) วันนี้ ทุ่มเพิ่มฐานทุนอีก 1 พันล้านบาท วางเป้าหมายดันส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์สูงกว่า 4% เพื่อก้าวขึ้นสู่ Top 5 โบรกเกอร์ไทยภายใน 5 ปี พร้อมใช้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายเครือข่ายสยายปีกครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายชาญศักดิ์ ธนเตชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"ถึงการย้ายจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บล.เคเคเทรด มารับตำแหน่งใหม่ หลังจากหยวนต้า เอเชีย ไฟแนนซ์เชียล เซอร์วิสเซส โบรกเกอร์อันดับหนึ่งของไต้หวัน เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 100% ในเคเคเทรด

"เราพึ่งอะไรหยวนต้า 1.ความพร้อมด้านเงินทุน และ 2.โนฮาวน์ ส่วนด้านบุคลากรเรามีความพร้อมที่จะ join กับหยวนต้า อันนี้คือที่เราหวัง ส่วนทางเขาหวังอะไรเรา ถ้าเขาอยากจะเป็น regional Broker ประเทศไทยเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะ Size บ้านเราใหญ่กว่าตลาดสิงคโปร์ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้ามองฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะไปสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย หรือไทย ล่ะ ดังนั้นไทยถือเป็น Strategic Location ที่ดีสุด ถ้าไทยแข็งแรงมากขึ้น จนเป็นอีกขาหนึ่งที่ทำให้เขาสามารถคุมฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้"นายชาญศักดิ์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า หยวนต้ามีเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้าให้ขึ้น TOP 5 คาดว่าจะต้องมีมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 4% ขึ้นไป

"เป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้านี้ เราอยากเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำ ซึ่งก็จะต้องขึ้น TOP 5 เพราะในไต้หวันเราเป็นอันดับ 1 ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมาร์เก็ตแชร์ เทรดดิ้ง ออพชั่น ด้านปล่อยสินเชื่อมาร์จิ้น พวกนี้เราอยู่ในอันดับ 1 ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเมื่อเราขยายออกมานอกประเทศ เราก็หวังว่า ranking ของเราก็ต้องอยู่ในระดับที่โอเค ถ้าขึ้น TOP 5 เราก็ต้องมีมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 4% ขึ้นไป"นายชาญศักดิ์ กล่าว

แผนงานของบริษัทฯต้องการขยายงานด้านธุรกิจค้าหลักทรัพย์ (Brokerage) โดยจะมีการเพิ่มลูกค้าสถาบันให้มากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นลูกค้ากองทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทจะสามารถอาศัยความสัมพันธ์กับหยวนต้าในต่างประเทศในการชักชวนลูกค้าเข้ามาเทรดในตลาดหุ้นไทยได้มากขึ้น และยังช่วยในด้านการขยายส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ให้บริษัทฯได้มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มหยวนต้าซึ่งเป็นบริษัทแม่ เฉพาะบริษัทหลักทรัพย์มีสาขาอยู่ที่ไต้หวันกว่า 200 สาขา หากรวมในส่วนของแบงก์ด้วยจะมีสาขาทั้งสิ้นราว 315 สาขา ซึ่งเครือข่ายของหยวนต้ามีมากครอบคลุมไปทั่วไต้หวัน และยังขยายออกไปยังต่างประเทศด้วย ทั้งฮ่องกง, เวียดนาม, กัมพูชา, อินโดนีเซีย รวมถึงไทย จึงมีโอกาสที่บริษัทจะเป็น Hub ในส่วนภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในอนาคต

ขณะที่บริษัทฯยังมีแผนที่จะขยายสาขาในประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีสาขาทั้งหมด 12 สาขาถือว่ายังไม่มาก โดยมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นในหัวเมืองใหญ่ อย่างจังหวัดนครศรีธรรมราช, จังหวัดอุดรธานีก็น่าสนใจ ซึ่งจะทำเป็นลักษณะของ Full Service และอาจจะแตกสาขาย่อยเป็นลักษณะ Cyber branch ออกไปอีก เนื่องจากบริษัทฯก็จะไม่มีธนาคารพาณิชย์ร่วมถือหุ้นแล้ว ดังนั้นภายในวันที่ 30 ต.ค.จะมี 4 สาขาของบริษัทฯที่จะต้องย้ายออกมาจากสาขาของแบงก์ที่เชียงใหม่, ชลบุรี, ขอนแก่น และสมุทรสาคร

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจค้าหลักทรัพย์ของบริษัทฯยังคงเน้นลูกค้ารายย่อย (Retail) เป็นหลัก โดยมีบัญชีลูกค้าค้าหลักทรัพย์ประมาณ 50,000 บัญชี และมีมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจค้าหลักทรัพย์อยู่ประมาณ 1.2-1.3% (เป็น Retail ทั้งหมด) โดยรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯมาจากธุรกิจค้าหลักทรัพย์มีประมาณ 92-93% ของรายได้รวม ส่วนรายได้จาก TFEX อยู่ที่ประมาณ 7-8%

นายชาญศักดิ์ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯก็ได้ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,500 ล้านบาท จากเดิม 500 ล้านบาท เพื่อที่จะทำให้ฐานะการเงินของบริษัทมีความมั่นคงยิ่งขึ้น และยังเพื่อนำเม็ดเงินที่ได้มาใช้ในการขยายงานของบริษัทฯต่อไปด้วย และบริษัทก็ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มทุนได้อีก เนื่องจากคาดว่าเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้คงจะไม่เพียงพอต่อการขยายงานของบริษัทในอนาคต

"หลัก ๆ ของการเพิ่มทุนคือต้องการทำให้ฐานเงินทุนแข็งแรง เพราะพอหยวนต้าเข้ามาปุ๊บก็อยากให้คนรู้สึกว่าเรามีความสามารถด้านการเงิน พอเงินเข้ามาก็ไปขยายงานด้านอื่น เพราะใช้เงินค่อนข้างเยอะ ยกตัวอย่าง ด้านการขยายงาน network ตอนนี้เรามีอยู่ 12 สาขา ก็ยังไม่ได้เยอะ ตอนนี้เราก็จะขยายสร้าง network ในประเทศ

ด้านธุรกิจที่จะขยายเพิ่มเติม ก็เช่นการปล่อยมาร์จิน จะ consume Capital ค่อนข้างเยอะ เราก็จะอัดฉีดด้านนี้ และ New product อื่นด้วย อย่างเช่นพวก Derivative พวก Bond ซึ่งถ้าขึ้นมา Full แล้ว 1,500 ล้านบาทก็คงจะไม่พอ มีโอกาสจะเพิ่มทุนได้อีก เพียงแต่ว่าเราจะขยายได้มากเร็วแค่ไหน อยู่ที่ Size ของธุรกิจด้วยว่าโตได้เร็วมากน้อยแค่ไหน ส่วนบริษัทแม่ที่ไต้หวันก็ได้ commit แล้วว่าไม่มีปัญหา"นายชาญศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ความร่วมมือภายหลังการเข้ามาของหยวนต้าในช่วงเดือนที่ผ่านมามีการจัดการระบบด้านหลังบ้านค่อนข้างมาก ขณะที่หยวนต้าได้ส่งเจ้าหน้าที่จากไต้หวันเข้ามาดูงานด้านการบริหารความเสี่ยง ด้าน operation และ ด้าน IT รวมทั้งการนำจุดเด่นของหยวนต้าและเคเคเทรดมาผสมผสานกันให้ลงตัว

"จุดเด่นของเขามีค่อนข้างเยอะมาก 1. ด้านเทคโนโลยี ทางไต้หวันก้าวหน้ากว่าเราค่อนข้างเยอะมาก 2 ด้าน Financial Product เป็น model ที่ดี ถ้านำเข้ามาทำจะดีมาก"นายชาญศักดิ์ กล่าว

นายชาญศักดิ์ กล่าวว่า จุดเด่นของหยวนต้า คือ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (Financial Product) ที่มีเป็นจำนวนมากและหลากหลาย ซึ่งจะนำมาใช้ในบ้านเราด้วย อาทิ มีแผนจะออกขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) คาดว่าจะสามารถเริ่มได้ภายในปีนี้ รวมไปถึงการออกตราสารอนุพันธ์เพื่อซื้อขายในตลาด TFEX

สำหรับธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) คาดว่าจะเริ่มได้ในปีหน้า โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก ส่วนการทำ Prop Trade น่าจะทำได้ในอนาคตแต่จะมุ่งเน้นไปที่การทำเพื่อเป็นธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (product) ที่บริษัทฯออก ซึ่งจะให้สัดส่วน 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% ทำเพื่อการเทรดดิ้ง

ขณะที่ปัจจุบันพอร์ตมาร์จินของบริษัทฯมีอยู่ราว 700 ล้านบาทสามารถขยายได้ถึง 3,000-4,000 ล้านบาท โดยหลังเพิ่มทุนมาแล้วทำให้มีทุนราว 1,500 ล้านบาท ก็จะทำให้ปล่อยกู้ได้ถึงประมาณ 7,500 ล้านบาท และทางบริษัทแม่ก็มีวงเงินให้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งก็ยิ่งทำให้บริษัทฯสามารถขยายวงเงินในการให้มาร์จินได้มาก และบริษัทฯอาจจะทำธุรกิจ SBL ด้วย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ คาดว่าจะออกมามีผลกำไรใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิกว่า 20 ล้านบาท แม้ว่าในครึ่งปีแรกจะมีกำไรสุทธิเพียงแค่ 3 ล้านบาท แต่ในครึ่งปีหลังคาดว่ากำไรจะมากขึ้น โดยเฉพาะหากดัชนีฯแกว่งอยู่แถว 1,500-1,600 จุด และวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันอยู่แถว 60,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมนี้วอลุ่มเทรดของตลาดฯถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

สำหรับปี 60 หลังจากหยวนต้าเข้ามาร่วมงานกับบริษัทฯเต็มที่แล้ว ก็คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯน่าจะเติบโตก้าวกระโดดได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ