ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,547.32 จุด ลดลง 1.12 จุด (-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 28,554.75 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,550.59 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,544.45 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบอยู่ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฯได้รับปัจจัยกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงหลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมีให้ปรับตัวลง
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับปัจจัยบวกจาก FSTE ประกาศการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และงานไทยแลนด์โฟกัส ซึ่งน่าจะทำให้มี Fund Flow ไหลเข้ามาในระยะ 2-4 สัปดาห์หลังจากจบงานแล้ว ซึ่งตรงนี้ทำให้ช่วยประคองตลาดฯไว้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังมองว่าช่วงนี้ภาพการลงทุนคงจะเป็นลักษณะไซด์เวย์
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ดัชนีฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,743.28 ล้านบาท ปิดที่ 548.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.00 บาท
RJH มูลค่าการซื้อขาย 2,090.37 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,615.40 ล้านบาท ปิดที่ 198.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 855.93 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 846.46 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท