นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า จากที่รัฐบาลได้พัฒนาโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ ประเทศไทย 4.0 จึงมีความจำเป็นต้องผลักดันตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้มีการเติบโตสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ โดยได้ให้ตลท.จัดทำแผนแม่บท ตลท. 4.0 ขึ้น เพื่อวางแผนการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อดึงดูดการเข้ามาจดทะเบียนของอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และสะท้อนทิศทางการดำเนินงานในอนาคต
ทั้งนี้ อยากให้ตลท.มีแผนงานที่จะเข้ามาสนับสนุนสตาร์ทอัพ โดยทางตลท.จะต้องมีการหารือร่วมกันกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการหาแนวทาง เช่น สร้างตลาดรองรับสตาร์ทอัพ หรือ การ Create Sector ใหม่ เป็นต้น ขณะเดียวกันเงินกองทุนพัฒนาตลาดทุนที่มีอยู่จำนวนมาก มองว่ายังสามารถนำไปช่วยสร้าง Facility ให้สตาร์ทอัพเกิดความเข้มแข็ง เช่น การระดมทุนของสตาร์ทอัพให้มีการเชื่อมโยงกับตลท. โดยให้ตลท.เป็นแกนกลางในการเชื่อมโยงกับสถาบันการเงิน มหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัย เพื่อสร้างเสถียรภาพขึ้นมาให้ได้
นอกจากนี้ไทยยังมีการพัฒนาเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก ทั้ง ถนน รถไฟฟ้า รถไฟ ฯลฯ ที่น่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นซึ่งน่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมแก่การวางแผนโรดโชว์ โดยคาดว่าการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) น่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 60 จึงเป็นสิ่งที่ตลท.จะต้องไปศึกษา
ขณะที่มองประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของ CLMV และ AEC จะทำอย่างไรให้เป็นที่หนึ่งในภูมิภาค โดยก็มีการหารือกับตลท.ว่าจะสามารถสร้างเครื่อมือในการลงทุนอย่างไรได้บ้าง ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของนักลงทุนที่เข้าไปลงทุน ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างให้นักลงทุนได้มีโอกาสเติบโตในประเทศเหล่านี้ อีกทั้งการใช้โทรศัพท์มือถือที่จะมีความสำคัญมากขึ้น ในการรับข้อมูลที่หลากหลาย อยากให้ทางตลท.ช่วยเหลือในการสร้างนักวิเคราะห์ ที่ถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญมากสำหรับตลาดทุน ให้มีการประเมินมาตรฐาน รักษาคุณภาพ รวมถึงพัฒนาหลักสูตรในระดับมหาวิทยาลัย
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ขณะนี้ตลท.ได้มีการวางแผนการดำเนินงานของตลท.ในปี 60 ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการนำนโยบายดังกล่าว เข้ามารวมกับแผนงานในอนาคต โดยในเรื่องของการสนับสนุนสตาร์ทอัพ ก็ยังต้องมีการหารือกับคณะกรรมการตลท.ในการหาแนวทาง และการวางแผนโรดโชว์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์) น่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างช้าต้นปี 60