โบรกฯแนะ"ซื้อ" QH รับผลบวกลงทุนใน 4 บ.ร่วมทุน-กำไรพิเศษปลายปี ชดเชยธุรกิจอสังหาฯทียังไม่เด่นปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 1, 2016 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) หลังมองการลงทุนใน 4 บริษัท คือ HMPRO, QHHR, QHPF และ LHBANK จะให้ผลตอบแทนที่ดี และมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากดีลการขายหุ้นเพิ่มทุนของ LHBANK ให้กับ CTBC ในราคา 2.2 บาท/หุ้น สูงกว่ามูลค่าทางบัญชี ทำให้คาดว่า QH จะรับรู้กำไรพิเศษเข้ามาในช่วงปลายปีนี้ ช่วยชดเชยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่โดดเด่นมากนักในปีนี้

ทั้งนี้ QH ได้มีการปรับลดแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เหลือ 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่วางแผนเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.45 หมื่นล้านบาท และหันมาเน้นการขายโครงการที่มีอยู่ในสต็อกซึ่งเป็นโครการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนได้ทันที

การปรับแผนเปิดโครงการใหม่จะไม่กระทบยอดขาย เพราะ QH จะสร้างยอดขายจากโครงการในสต็อกเข้ามาชดเชยได้ เชื่อว่ายอดขายในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้ยังคงคาดว่าทำได้ที่ 2.19 หมื่นล้านบาท จากโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนที่ QH หันมาเน้นการขายมากขึ้นเพราะจะสร้างรายได้ได้ทันที และเป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีความต้องการที่แท้จริง

ราคาหุ้น QH อยู่ที่ 2.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท (+1.47%) เมื่อเวลา 14.41 น.

          โบรกเกอร์                คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย  (บาท/หุ้น)
          ทิสโก้                      ซื้อ                          4.00
          ไทยพาณิชย์                  ซื้อ                          3.80
          เอเชีย พลัส                 ซื้อ                          3.46
          ทรีนีตี้                      ซื้อ                          3.40
          ซีไอเอ็มบีฯ                  ซื้อ                          3.40
          ยูโอบีฯ                     ซื้อ                          3.00
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ            ซื้อ                          2.90

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น QH จากส่วนแบ่งกำไรของการลงทุนใน 4 บริษัทยังให้ผลตอบแทนที่สูง และมีมูลค่าการลงทุนรวมกันสูงกว่าราคาหุ้นของ QH ในปัจจุบัน โดย QH ได้มีการลงทุนใน 4 บริษัท คือ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ที่ถือหุ้นราว 20% ,กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ (QHHR) สัดส่วนราว 31% ,กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QHPF) ประมาณ 26% และบมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHBANK) ประมาณ 22%

อีกทั้ง QH ยังเน้นการขยายโครงการทาวน์โฮมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่แท้จริง (Real Demand) อยู่มาก ซึ่งจะช่วยส่งผลดีต่อยอดขายโครงการแนวราบและรายได้โครงการแนวราบ

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ QH ได้วางแผนการเปิดโครงการใหม่เพียง 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6.5 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนรายได้และยอดขายของ QH ให้แข็งแกร่งขึ้น โดยได้เลื่อนการเปิดโครงการใหม่ออกไปเป็นปี 60 จำนวน 4 โครงการ แต่ไม่น่าจะกระทบกับยอดขายของ QH ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2.1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากโครงการแนวราบของ QH เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอน

ด้านรายได้ของ QH ในปีนี้ยังคงประมาณการตามเป้าหมายของบริษัทในระดับเดิมที่ 2.19 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกสามารถทำรายได้คิดเป็น 54% ของเป้าหมาย และยังมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนมูลค่ารวมกว่า 8 พันล้านบาท ส่วนในแง่ของกำไรสุทธิในปีนี้ยังคงประมาณการในระดับเดิมที่ 3.2 พันล้านบาท ขณะที่ในปลายปีนี้ QH จะมีกำไรพิเศษที่เข้ามาเพิ่มเติมจากดีลของการเพิ่มทุนของ CTBC Bank Company Limited (CTBC) ใน LHBANK ซึ่งจะเป็นผลบวกในระยะสั้นของ QH

บทวิเคราะห์บล.ทรีนีตี้ ระบุว่าการเพิ่มทุนของ LHBANK โดย CTBC ซึ่งเป็นการเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (PP) นั้น จะส่งผลให้ QH มีสัดส่วนถือหุ้นใน LHBANK ลดลงเหลือ 13.7% และจากราคา Subscription ของ CTBC ที่ 2.2 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่ามูลค่าทางบัญชี ทำให้คาดว่า QH จะสามารถรับรู้กำไรพิเศษได้ราว 900 ล้านบาท ในไตรมาส 4/59 เมื่อดีลเสร็จสิ้น แต่เนื่องจาก QH จะมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลง การรับรู้รายได้โดยวิธี Equity method จะลดลงตามไปด้วย แต่สำหรับการดำเนินงานระยะยาวเชื่อว่าการเข้ามาถือหุ้นโดย CTBC จะช่วยส่งเสริมให้รายได้ของ LHBANK มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจะเป็นผลดีต่อ QH

นางสาวเติมพร ตันติวิวัฒน์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 2.90 บาท/หุ้น โดยมองว่า QH ยังมีส่วนแบ่งกำไรในบริษัทที่เข้าไปลงทุนยังมีความเติบโตเด่น และหนุนผลการดำเนินงานของ QH ขณะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังไม่มีความโดดเด่นมากนัก โดยคาดว่ากำไรของ QH ในปีนี้จะเติบโต 6.8% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 3.31 พันล้านบาท ไม่รวมกำไรพิเศษที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีนี้จากการเพิ่มทุนของ LHBANK ให้กับ CTBC เข้ามาถือหุ้น

ส่วนรายได้ของ QH ในปีนี้ประเมินว่าจะเติบโต 10.6% จากปีก่อน หรือมาอยู่ที่ 2.25 หมื่นล้านบาท โดยกลยุทธ์ของ QH นั้นจะเน้นขายโครงการเดิมที่เปิดมาก่อนหน้านื้ และลดจำนวนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เป็น 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.12 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายโครงการในปีนี้ของ QH มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนราว 25% หรือมาอยู่ที่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ QH ตั้งเป้าไว้ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 ของ QH ยังคงมีความผันผวนค่อนข้างมาก เพราะจะต้องพึ่งกับยอดขายของโครงการแนวราบที่จะเป็นตัวผลักดันผลการดำเนินงาน ซึ่งโครงการแนวราบของ QH ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอน ซึ่งทำให้ QH ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้างด้านการขายในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน อีกทั้งยังต้องแบกรับต้นทุนการขายและบริหารในระดับหนึ่งอยู่

นักวิเคราะห์บล.ทิสโก้ แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาป้าหมาย 4 บาท จากแนวโน้มของผลตอบแทนจากการลงทุนใน 4 บริษัทยังให้ผลตอบแทนที่ดีต่อ QH และจะมีกำไรพิเศษเข้ามาจากดีลการเพิ่มทุนของ LHBANK ให้กับ CTBC ซึ่งกำไรในส่วนนี้จะเข้ามาในช่วงไปลายปีนี้ และจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ แม้ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีแนวโน้มที่ไม่โดดเด่น

QH เน้นการขายโครงการที่เปิดมาก่อนหน้านี้ที่เป็นโครงการในสต็อกเพิ่มมากขึ้นกว่าการเปิดโครงการใหม่ โดย ได้ปรับลดการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เป็น 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่วางแผนเปิด 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.45 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทบ้าง แต่ยังเชื่อว่า QH ยังจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากยอดขายโครงการในสต็อกที่เป็นตัวผลักดัน

นอกจากนี้ มุมมองบวกในอนาคตนั้นเชื่อว่า QH มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน LHBANK เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ CTBC เข้ามา และ QH มีสัดส่วนการถือหุ้นลดลง ซึ่งการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน LHBANK จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกเรื่องของการลงทุนที่ช่วยให้ผลการดำเนินงานของ QH เติบโตขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ