นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ (PIMO) คาดว่ากำไรสุทธิและรายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยในส่วนของรายได้คาดว่าจะทำได้ราว 560-600 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกทำรายได้รวม 301.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 24.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มมอเตอร์ปั๊มน้ำสำหรับใช้ในบ้าน สปา และสระว่ายน้ำที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ไม่ต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8.10% จากปีก่อนอยู่ที่ 4.79% เป็นผลมาจากการเพิ่มยอดขายในส่วนของปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำ และปั๊มน้ำสำหรับใช้ในบ้านที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง ขณะที่บริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อยอดขายปรับลดลงด้วย
"สัดส่วนยอดขายต่างประเทศของเราปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 35% จากปีก่อนอยู่ที่ 29-30% ทำให้ผลการดำเนินงานทั้งแง่รายได้และกำไรเติบโตขึ้นอย่างมาก เพระมอเตอร์ที่ขายไปยังต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีมาร์จิ้นที่ค่อนข้างดี และในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มที่ยอดขายต่างประเทศจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง"นายวสันต์ กล่าว
นายวสันต์ กล่าวว่า แนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิ ใน 4 ปีข้างหน้า หรือปี 63 จะเติบโตจากปัจจุบันอย่างน้อย 1 เท่าตัว ซึ่งภายในระยะเวลา 30 วันต่อจากนี้ บริษัทจะเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงและความเข้าใจ (MOU) ในผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อมอเตอร์กระแสตรงไร้แปรงถ่าน (BLDC) และหลังจากนั้นจะเข้าไปทำการตรวจสอบสถานะสินทรัพย์ (Due Diligence) เพื่อเข้าซื้อเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามา คาดว่าจะใช้งบลงทุนในการซื้อราว 200 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งเป็นกู้ 60-70% และที่เหลือจะใช้กระแสเงินสด
หลังจากได้ความชัดเจนในการเข้าซื้อเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว บริษัทจะลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ขนาด 3,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุน 40-50 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บมจ.กันยงอีเลคทริก (KYE) ยังมีคำสั่งซื้อมอเตอร์สำหรับแอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันทาง KYE ก็มีความสนใจในเทคโนโลยี BLDC อีกด้วย ซึ่งอาจจะมีการร่วมมือกันในการขยายตลาดนี้
"อุตสาหกรรมมอเตอร์ไทยยังไม่เติบโต เนื่องจากคู่แข่งจากประเทศจีนเข้ามาแย่งตลาด เขาทำราคามาถูกกว่าเรา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เราต้องมองหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาทดแทน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จีนยังไม่สามารถทำได้ เราก็ได้ร่วมมือกับทาง KYE อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เรามีการเติบโตได้อีกมากในอนาคต"นายวสันต์ กล่าว