นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ๊นซ์ (MEGA) กล่าวถึงการร่วมทุนกับ บมจ.มาลีกรุ๊ป (MALEE) ในสัดส่วนการถือหุ้น MEGA 51% และ MALEE 49% เพื่อจัดตั้งการร่วมค้าเพื่อพัฒนาธุรกิจใหม่ทางด้านผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับตลาดประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ มีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้นรวม 10 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้วิจัยผลิตภัณฑ์ และ MALEE จะรับหน้าที่ในการผลิตสินค้าออกมาขาย โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าได้ในไตรมาส 3/60
ขณะเดียวกันบริษัทฯได้มีการสรุปแผนการลงทุนเพื่อก่อสร้างคลังสินค้าในประเทศพม่า มูลค่า 540 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 60 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 3/61
ส่วนความคืบหน้าศูนย์สุขภาพแห่งแรกของบริษัทในประเทศไทยที่ใช้เงินลงทุนราว 70 ล้านบาท ปัจจุบันได้เปิดใช้งานแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงของการทดลองให้บริการ โดยบริษัทจะสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 60 เบื้องต้นสามารถให้บริการได้คราวละ 30 คน ซึ่งจะเน้นลูกค้าในประเทศก่อน และหากได้รับผลตอบรับที่ดีก็จะขยายเพิ่มเติมและรับลูกค้าจากต่างชาติเข้ามา
ขณะที่ผลประกอบการปีนี้ บริษัทมั่นใจรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่เติบโตราว 5-10% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 8,096.73 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตจากผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อน 6-7 ตัวภายใต้แบรนด์"Mega We Care" ในขณะที่ผลิตภัณฑ์เดิมๆยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังยังจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่โดยปกติจะเป็น 55% ของผลประกอบการทั้งปี ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งในไทย เวียดนาม และพม่า ที่เป็นตลาดหลักของบริษัทฯ
"ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมารายได้เราเติบโตได้ 6.9% แล้ว และในช่วงครึ่งปีหลังเราเชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังสัดส่วนรายได้จะอยู่ที่ 55% ของผลประกอบการทั้งปี โดยจะเป็นการเติบจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เราได้เปิดตัวตั้งแต่ปีก่อน และด้วยภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งในไทย และเวียดนาม ขณะที่เมียนมาเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากผ่านการเลือกตั้งมา"นายวิเวก กล่าว