นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) คาดว่ารายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตราว 12-14% จากครึ่งปีแรกที่มีการเติบโต 18% ซึ่งรายได้ในครึ่งปีหลังที่เติบโตขึ้นมาจากบริษัทได้มีการบริหารพื้นที่ใช้สอยของศูนย์การค้าของบริษัทให้มีการใช้งานได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีลูกค้ารายใหญ่หลายรายที่เช่าสำนักงานและพื้นที่ศูนย์การค้าของบริษัทได้ตัดสินใจต่อสัญญาเพิ่มอีก 3 ปี ซึ่งการต่อสัญญาใหม่นั้นบริษัทได้มีการปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6% โดยในปัจจุบันศูนย์การค้าเดิมของบริษัทมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 93%
นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมายังส่งผลดีต่อการที่มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการศูนย์การค้าของบริษัทเพิ่มมากขึ้น โดย 7 เดือนที่ผ่านมามีอัตราการเข้ามาใช้บริการของศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น 3-4% และส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของลูกค้าที่เช่าพื้นที่ในศูนยืการค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 3% ในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทยังคาดหวังว่า SSSG ของลูกค้าที่เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ในปีนี้ที่บริษัทตั้งไว้ที่เติบโต 3%
ขณะที่ บริษัทยังคงเป้าหมายตามแผน 5 ปี (ปี 59-62) รายได้เติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี จากการพัฒนาและเปิดดำเนินการโครงการใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงศูนย์การค้าและสินทรัพย์ที่มีปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า ประกอบกับการเพิ่มรายได้ตามปกติของศูนย์การค้าปัจุบัน และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางและศูนย์ประชุมอเนกประสงค์มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าขยายพื้นที่ค้าปลีกในและต่างประเทศประมาณ 2-3 โครงการต่อปี และปรับปรุงศูนย์การค้าและสินทรัพย์ 3-4 โครงการต่อปี พร้อมกับวางแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 2-3 โครงการต่อปี รวมถึงศึกษาโอกาสธุรกิจในการขยายตลาดต่างประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียนและศึกษาเพื่อพัฒราธุรกิจในรูปแบบอื่นอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆในการขยายธุรกิจ
นางทิพาพรรณ ภัทรวิกรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บลจ.ไทยพาณิชย์ ผู้บริหารกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอกรมสรรพากรพิจารณาการขยายระยะเวลาให้สิทธิประโยชน์ลดภาษีและค่าธรรมเนียมการโอนสินทรัพย์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นกอง REIT โดยที่ผ่านมาภาคเอกชนและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนได้ส่งหนังสือไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว 1-2 เดือน โดยคาดว่าจะรู้ผลภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งบริษัทประเมินระยะเวลาในการดำเนินการแปลงสภาพ CPNRF เป็น REIT ไว้เบื้องต้นราว 6-8 เดือน ถึงแล้วเสร็จ
วัตถุประสงค์ในการแปลง CPNRF เป็น REIT เพื่อโอกาสในการขยายขนาดกองทุนโดยการนำสินทรัพย์เข้ามาเพิ่มมูลค่ากองให้มากขึ้นจากในปัจจุบันที่มีมูลค่ากองอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท และเพื่อที่จะมีความสามารถในการกู้ที่เพิ่มขึ้น เพราะกอง CPNRF มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ในการรีโนเวทศูนย์การบางแห่งที่อยู่ในกองดังกล่าว อย่างเช่น การรีโนเวทเซ็นทรัล พระราม 3