โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) มองธุรกิจแข็งแกร่งต่อเนื่องไป 3 ปีข้างหน้าตามเป้าหมายการขยายสาขาเพิ่มเป็น 12,000 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขา 9,252 สาขา
ส่วนครึ่งแรกปีนี้แม้ผลประกอบการของบมจ.สยามแมคโคร (MAKRO) ถ่วง แต่ CPALL ก็ยังมีผลประกอบการรวมที่ดี โดยบางโบรกเกอร์ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ขึ้นมาอีก โดยคาดว่าปี 59 จะมีกำไรสุทธิ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท และในปี 60 มีกำไรเติบโตมากเป็น 1.8-2.0 หมื่นล้านบาท จากการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้น และกลยุทธ์การดำเนินงานของ CPALL เองที่เพิ่มความหลากหลายสินค้าสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมือง ทำให้ยอดการขายยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น CPALL ในช่วงครึ่งหลังเดือน ส.ค.ทีผ่านมา ปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนใกล้เพดานหรือราคาเป้าหมายที่หลายค่ายให้ไว้ ซึ่งปรับขึ้นมาทำนิวไฮที่ 62.75 บาท เมื่อ 31 ส.ค.59 โบรกเกอร์บางรายจึงแนะ"ถือ"แต่บางรายก็ปรับเพิ่มเป้าหมายใหม่ เป็น 70-75 บาท
ราคาหุ้น CPALL ปิดภาคเช้าวันนี้ อยู่ที่ 60.75 บาท ลดลง 1.00 บาท (-1.62%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) ดีบีเอสวิคเคอร์ส ซื้อ 75 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ทยอยซื้อ 75 กรุงศรี ซื้อ 70 เคจีไอ ซื้อ 68 เมย์แบงก์กิมเอ็งฯ ซื้อเก็งกำไร 65 ฟิลลิปฯ ถือ 65
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 3/59 ของ CPALL เพราะเป็นช่วงเทศกาลเจที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 มียอดจำหน่ายมาก และมีการจัดแคมเปญแสตมป์ในช่วงวันที่ 26 ก.ค.-25 ก.ย.นี้ จะช่วยทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง จากช่วงครึ่งปีแรกที่มียอดขายดีมาก โดยยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตถึง 5% ถือว่าสูง จากสภาพอากาศร้อนทำให้มียอดขายเครื่องดื่มเย็นมากขึ้น และการที่มีสินค้าหลากหลายเข้ากับไลฟ์สไตล์
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น CPALL ปรับตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จนใกล้ราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ 65 บาทในปี 60 ทำให้เปลี่ยนคำแนะนำจากซื้อ มาเป็น ถือ เพราะมี upside ไม่มาก ราว 4-5% โดยราคาขึ้นไปทำสถิติสูงสุด (new high)ที่ 62.75 บาท ทั้งนี้ หากราคาหุ้น CPALL ปรับลงตามภาพตลาดรวม ก็เป็นจังหวะซื้อสะสม
"ราคาไม่เคยขึ้นเร็วขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ MAKRO ดึงผลประกอบการ แต่ราคาขึ้นเร็วทำ new high จากเมื่อต้นปี 59 ราคาอยู่ที่ 39 บาท"น.ส.ศศิกร กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่า CPALL มีกำไรในปีนี้ 1.6 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 20% และในปี 60 คาดว่ามีกำไร 2.06 หมื่นล้านบาท เติบโต 26% โดยจะมีการขยายสาขาแตะหมื่นสาขา จากปีนี้ที่ขยายอีก 700 สาขา ปัจจุบันมีจำนวนสาขา 9,252 สาขา และผู้บริหารระบุว่าหากการขยายสาขาแตะหมื่นสาขา CPALL จะยังเติบโตไปได้อีก 3 ปี จากการขยายสาขาต่อเนื่องอีก 2 พันสาขา เป็น 12,000 สาขา เพราะการบริโภคภายในประเทศยังดีต่อเนื่อง
น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อเก็งกำไรหุ้น CPALL ที่มีราคาพื้นฐานปี 60 ที่ราคา 59 บาท แต่รอราคาอ่อนตัวหลังจากราคาขณะนี้ปรับตัวขึ้นมากกว่าราคาเป้าหมาย ทั้งนี้ มองกำไรของ CPALL ในปีนี้อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท และปีหน้ากำไรเพิ่มเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท
"ยอดขายกำไรของ CPALL เติบโตตลอด มาร์จิ้นขยับดีขึ้น ทั้ง Food และ Non Food การขยายสาขาค่อนข้างมากทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"
ส่วน บล.กรุงศรี ได้ปรับราคาเป้าหมายใหมุ่หุ้น CPALL ที่ 70 บาท จากเดิม 60 บาท เนื่องจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ CPALL ในครึ่งแรกของปีนี้ ทำให้มั่นใจว่าโมเมนตั้มการเติบโตจะดำเนินต่อไป จาก SSSG ที่สูงถึง 3.8% และ GPM รวมของทั้งกลุ่มที่ 21.7% ในครึ่งแรกของปีนี้ สูงกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ และทำให้เรามีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มของ CPALL
ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 59 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท และปี 60 ที่ 2.09 หรือเพิ่มขึ้นอีก 8% และ 12.7% ตามลำดับ และคาดว่าบริษัทจะสามารถขยายสาขาร้าน 7-Eleven ได้จนถึง 12,000 สาขาในปี 62 ตามแผน 5 ปี
"เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 70 บาท โดยอิงจากประมาณการปี FY17F (จากเดิม 60 บาท) เราใช้ WACC ที่ 8% และ LTG 3% คิดเป็น P/E ปี FY17F ที่ 30x ซึ่งเราคิดว่า เหมาะสมเมื่อพิจารณาจากกำไรที่ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งและแผนการสร้างการเติบโตในอีกสามปีข้างหน้า เรายังคงเลือก CPALL เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มการพาณิชย์"บล.กรุงศรี ระบุ