สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (29 สิงหาคม - 2 กันยายน 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 429,538.89 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 85,907.78 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 8% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 77% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 330,388 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 57,028 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 11,178 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 8 ปี) LB21DA (อายุ 5.3 ปี) และ LB26DA (อายุ 10.3 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 10,683 ล้านบาท 8,372 ล้านบาท และ 7,314 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTC21NB (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 655 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTC21NA (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 576 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด รุ่น BAM17DA (AA-(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 544 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุตราสาร โดยตราสารหนี้อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10 bps. จาก 2.14% มาอยู่ที่ 2.24% เป็นผลมาจากการกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุมประจำปีของ Fed โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) (วันศุกร์ที่ 26 ส.ค.) เกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ว่ายังคงมีการขยายตัว ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ได้ระบุกรอบเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำหรับด้านปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนประจำเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง และรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ปรับเพิ่มขึ้น 2,000 ราย อยู่ที่ 263,000 ราย ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 265,000 ราย แสดงถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดคาดว่า Fed มีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะรายงานในคืนวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตามในวันพุธที่ 31 ส.ค. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 20 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8 bps.จาก 2.63% มาอยู่ที่ 2.71% เนื่องจากมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอ้างอิงอายุ 20 ปี รุ่น LB366A วงเงิน 11,000 ล้านบาท ซึ่งผลประมูล Accept เพียง 2,600 ล้านบาท โดยมี Average Yield ที่ 2.7048% (สูงขึ้นจากวันก่อนหน้า 8 bps.) ในขณะที่นักลงทุนสนใจส่งเข้าร่วมประมูลเพียง 0.88 เท่าของวงเงินประมูล ทั้งนี้ จากการที่นักลงทุนต้องจัดสรรเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรซึ่งมี Supply ออกมาอย่างต่อเนื่อง และการแลกพันธบัตรในธุรกรรม Bond Switching ที่เพิ่งผ่านมา
สัปดาห์ที่ผ่านมา (29 สิงหาคม - 2 กันยายน 2559) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 3,669 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 2,335 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 5,665 ล้านบาทและเป็นตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 6,998 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (29 ส.ค. - 2 ก.ย. 59) (22 - 26 ส.ค. 59) (%) (1 ม.ค. - 2 ก.ย. 59) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 429,538.89 396,746.78 8.27% 15,500,035.54 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 85,907.78 79,349.36 8.27% 95,679.23 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 111.54 112.09 -0.49% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 107.27 107.45 -0.17% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (2 ก.ย. 59) 1.37 1.48 1.49 1.64 1.83 2.24 2.57 2.85 สัปดาห์ก่อนหน้า (26 ส.ค. 59) 1.34 1.46 1.48 1.6 1.76 2.14 2.5 2.82 เปลี่ยนแปลง (basis point) 3 2 1 4 7 10 7 3