นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า จากแรงขายที่เข้ามาแรงอย่างผิดคาดและยังมีแนวโน้มที่จะขายต่อจึงเกิดความไม่แน่นอนต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย ยังแนะนำให้ลดพอร์ตในหุ้นขนาดใหญ่ที่ขาดปัจจัยบวกคอยหนุนไว้ และปรับกรอบเวลาการลงทุนเป็นเล่นสั้น ๆ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,481-1,510 จุด
คืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน ทำให้ตลาดอื่นๆดูไม่คึกคักเท่าใดนักเพราะราคาสินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่อ้างอิงกับตลาดสหรัฐฯ แต่ผลพวงจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่ออกมาต่ำกว่าคาด อาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกไป จึงยังเป็นบวกต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ โดยเฉพาะตลาดเอเชียแต่ก็คาดว่าจะมีผลมาถึงตลาดในวันนี้ไม่มากนัก ข่าวในเรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะยังเป็นประเด็นที่มีผลต่อตลาดหุ้นอื่นๆ อยู่ต่อไปตราบที่ยังไม่มีการประชุม
ขณะที่ราคาน้ำมัน ถูกหนุนด้วยข้อตกลงระหว่างรัสเซีย-ซาอุฯ (กำลังการผลิตรวมกันประมาณ 20% ของโลก) ที่จะร่วมมือกันในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันหรืออีกนัยหนึ่ง คือเป็นแกนนำในการประชุมครั้งที่จะถึงนี้ แม้จะไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่จะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น หลังผิดหวังต่อการประชุมเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ด้านปัจจัยในประเทศหลักๆจะเป็นความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อข่าวในเชิงลบ กอรปกับการชิงขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากที่ Fed อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยและเป็นปกติของตลาดที่ช่วงนี้ นักลงทุนมักชะลอการลงทุนเมื่อผ่านฤดูกาลของการส่งงบฯ และขึ้น “XD" ไปแล้ว
ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ประเมินว่า แรงขายน่าจะยังมีอยู่ในตลาด แม้ปัจจัยภายนอกจะดูเป็นบวกเล็กน้อยต่อตลาดก็ตาม ดัชนีฯ มีโอกาสที่จะผันผวนตลอดทั้งวันอาจปิดบวกหรือลบได้ทั้งสองทาง โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดในระหว่างวัน คือ ทิศทางราคาน้ำมัน และผลการประชุม ครม. (แต่คาดจะไม่มีวาระสำคัญ)
หุ้นที่มองว่าน่าสนใจและแนะนำสำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น DIF,TMT,BCH,WICE,COM7,MEGA