นายวิรัฐ สุขชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์วิคเตอร์ (FIRE) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการของบริษัทจะเติบโตเป็นเท่าตัวในปี 60 หากบริษัทสามารถควบรวมกิจการกับบริษัท ชิลแมทช์ จำกัด (CM) สำเร็จ โดยคาดว่ารายได้จะพุ่งเกินกว่า 1 พันล้านบาท และจะมีกำไรไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากปี 59 คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ราว 570 ล้านบาท และกำไรเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 40 ล้านบาท
"หลังรวมกิจการ ยอดขายรวมน่าจะมากกว่า 1,000 ล้านบาท ต่อไปเราก็จะโตได้อีก กำไรก็คงระดับ 100 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งก็จะเพิ่มเท่าตัว การควบรวมกิจการมองเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นเพราะมีข้อดีหลายอย่าง มีธุรกิจหลากหลายมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางเพราะใช้ทรัพยากรร่วมกัน การขยายธุรกิจไปต่างประเทศก็สามารถมีสินค้าที่หลากหลายไม่เฉพาะอุปกรณ์ดับเพลิง ซึ่งธุรกิจบางส่วนไปสามารถไปพร้อมกันได้บางส่วน ซึ่งเราก็สามารถรับเหมาฯทำธุรกิจเครื่องทำความเย็นเพิ่มเติมในอนาคตได้"นายวิรัฐ กล่าว
ทั้งนี้ FIRE แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เช้านี้ว่าจะซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของ CM ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในระบบทำความเย็นและระบบปรับอากาศ รวมทั้งให้คำปรึกษาและออกแบบห้องเย็น โดยมีมูลค่ารวม 614.39 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะชำระเงินด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุน 234.5 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) ที่ราคาหุ้นละ 2.62 บาท ส่งผลให้กลุ่มผู้ถือหุ้นของ CM จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท 40.12% ภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้
ขณะที่ ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน FIRE และผู้ถือหุ้นใหญ่ใน CM เป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกัน เช่น นางสิริมา เอี่ยมสกุลรัตน์ ถือหุ้นใน FIRE ราว 10.02% และถือหุ้นใน CM ราว 12.27%, นายเจน ชาญณรงค์ ถือหุ้นใน FIRE ราว 9.71% และถือหุ้นใน CM ราว 26.98% เป็นต้น
นายวิรัฐ กล่าวว่า เนื่องจาก CM มีผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งถือใน FIRE อยู่แล้ว ซึ่งเดิม CM ก็มีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เองหลัง FIRE เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) แต่ผู้บริหารของ CM มองว่าการนำ CM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เองมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก เพราะต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน จึงมองว่าแนวทางการควบรวมกับ FIRE น่าจะดีกว่า ดีลนี้จึงเกิดขึ้น
หลังจากประเมินมูลค่ากิจการแล้ว จึงใช้วิธีแลกหุ้นกันด้วยการให้ FIRE ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้กับผู้ถือหุ้น CM โดยว่าจ้าง บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เข้ามาประเมินมูลค่ากิจการด้วยวิธีต่างๆ และเจรจากันจนกระทั่งสรุปเป็นราคาที่เหมาะสม โดยประเมินว่าทั้งยอดขายและกำไรสุทธิของ CM ใกล้เคียงกับ FIRE จึงมีการแลกด้วยหุ้นเพิ่มทุน FIRE ด้วยมูลค่า 614.39 ล้านบาท
"เป็นมูลค่าที่เหมาะสม เพราะกำไรมากกว่า 50 ล้านบาท โดยธุรกิจด้านวิศกรรม เพราะ CM ทำเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ FIRE ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดับเพลิง ซึ่งก็จะทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นเท่าตัวหลังจากควบรวมกิจการแล้ว แผนงานแรกที่จะทำร่วมกันเป็นธุรกิจเครื่องปรับอากาศก่อน ซึ่งเราวางแผนโตด้วยธุรกิจเครื่องปรับอากาศ เพราะมีสินค้าหลายตัวเข้ามาเพิ่มเติม"นายวิรัฐ กล่าว
ทั้งนี้ หลังควบรวมกิจการแล้วกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ CM จะเข้ามาร่วมเป็นกรรมการในบริษัทใหม่และจะบริหารงานร่วมกัน ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อบริษัท FIRE เป็น บมจ. หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ (HARN) และยังคงซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไม่มีแผนย้ายไปตลาดหลักทรัพย์ (SET)
อนึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะต้องนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น 1 พ.ย.นี้พิจารณาอนุมัติก่อน ซึ่งดีลนี้เป็นการเข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์โดยทางอ้อม (Backdoor Listing) โดยหลังการควบรวมกิจการกลุ่มนายวิรัฐ สุขชัย จะลดการถือห้นใน FIRE เหลือ 17% จากปัจจุบัน 24% ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มชาญณรงค์ปัจจุบันถือ FIRE ราว 40% หลังควบรวมเหลือถือ 28%
ส่วนใน CM ปัจจุบันกลุ่มชาญณรงค์ถือหุ้นในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับที่ถือใน FIRE