นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) แกว่งตัวในกรอบ 1,470-1,520 จุด รับปัจจัยบวกจากคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และดัชนีภาคบริการที่ชะลอตัว
แต่ทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงราว 0.6% อาจจะเป็นลบต่อกระแส Fund Flow ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคที่ทิ้งตัวลงแรงเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาด
นอกจากนี้ ทาง FTSE : Rebalance Large Cap เพิ่ม KBANK, SCC ส่วน Mid Cap เพิ่ม BEM และ Small Cap เพิ่ม GPSC, VIBHA, IMPACT แต่ถอด THRE โดยมีผล 16 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ แนะนำรอซื้อสะสมช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ได้แก่ หุ้น BANPU จากราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 69.9 ดอลลาร์/ตัน และยังให้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน BPP ช่วง 18-25 หุ้น BANPU ต่อ 1หุ้น BPP ขึ้น XB วันที่ 8 กันยายนนี้
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ GBS ประเมินตลาดหุ้นว่า ยังคงให้ความสำคัญกับการคาดการณ์ FED ที่มีแนวโน้มว่าจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% รวมทั้งดัชนีภาคบริการในเดือน ส.ค.ขยายตัวต่ำที่สุดในรอบกว่า 6 ปีและต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์โดยอยู่ที่ระดับ 51.4 ลดลงจากระดับ 55.5 ในเดือนก.ค.
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันขยับขึ้นหลังมีข่าวว่าซาอุฯและรัสเซียจับมือร่วมกันรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ท่ามกลางภาวะตลาดที่มีความผันผวน ทั้งนี้การประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย. และนักลงทุนต่างชาติยังคง Net Buy ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนประมาณ 3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องกังวลกับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของไทยเดือน ส.ค.59 ปรับลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน จากระดับ 49.4 มาอยู่ที่ระดับ 47.8 ซึ่งเป็นการปรับลดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในเกือบทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันรัฐบาลอังกฤษจะกำหนดแผนการดำเนินการในสัปดาห์นี้ เรื่องการเตรียมการออกจากการเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU)
นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดหวังว่าจะขยาย QE ที่จะหมดอายุในเดือน มี.ค.60 และในช่วงเช้าของวันเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) และในวันที่ 14 ก.ย.มีประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งตลาดคาดว่า กนง.น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม
นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน GBS เปิดเผยถึงแนวทางการลงทุนในทองคำว่า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8% ส่งผลให้ตลาดลดการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินช่วงวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนเนื่องจากนักลงทุนรู้สึกผิดหวังต่อถ้อยแถลงของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุม BOJ ในวันที่ 20-21 ก.ย.ส่งผลให้นักลงทุนหันมาซื้อเยนเพื่อลดความเสี่ยงเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิคมองว่ามีการฟื้นตัวขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน ด้วยแท่งเทียนสัญญาณบวกลักษณะ Tower Bottom ค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้น ทำให้ราคาแนวโน้มสร้างฐานแนวรับ Double Bottom และสร้างแรงหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวรับ 1,325-1,320 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,355-1,360 เหรียญต่อทรอยออนซ์