นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทคโนเมดิคัล (TM) กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ปี 60 จะเติบโตราว 20% โดยจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นจากสินค้าจ้างผลิต (OEM) เพิ่มขึ้นในกลุ่มเจล , เสื้อกาวน์ และหมวกคลุมผมที่ใช้ทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งคาดหวังสัดส่วนรายได้จากสินค้าดังกล่าวจะขยับเพิ่มเป็น 7-10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7%
ทั้งนี้ สินค้าของบริษัทยังอยู่ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในห้องผ่าตัด ,กลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในหน่วยจ่ายกลางของโรงพยาบาล ,กลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในห้องปฎิบัติการและธนาคารเลือด และกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับการผ่าตัดหัวใจ และเครื่องมือผ่าตัดทั่วไป
ขณะที่การเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ่นยนต์"ดินสอ"มินิ, กาวปิดแผล และเทคโนโลยีสปายเพื่อการผ่าตัด คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงต้นปี 60 โดยปัจจุบันบริษัทฯมีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว โดยเฉพาะในหุ่นยนต์"ดินสอ"มินิ มีออเดอร์มากกว่า 20 ตัว มูลค่าราว 1 แสนบาทต่อตัว
นางสุนทรี กล่าวว่า สำหรับผลงานในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 20% หรือแตะ 600 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 511 ล้านบาท เป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับการผ่าตัดหัวใจ และเครื่องมือผ่าตัดทั่วไปที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรายได้ในครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 500% จากปีก่อนทำได้ 11.95 ล้านบาท ขณะที่อุตสาหกรรมทางด้านการแพทย์ และโรงพยาบาลปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 5-7%
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ก็น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งในไตรมาส 3/59 ก็น่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามฤดูกาลของธุรกิจ ที่จะมียอดคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น ในกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลรัฐบาล โรงพยาบาลเอกชน และคลินิก และน่าจะส่งผลดีต่อไตรมาสสุดท้ายที่เป็นไตรมาสที่ทำยอดขายได้สูงที่สุดของทุกปี
นอกจากนี้ อัตรากำไรสุทธิปีนี้คาดจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 4.67% และปีก่อนอยู่ที่ 5.64% เนื่องจากบริษัทฯนำเงินที่ได้จากการระดมทุน (IPO) ไปชำระคืนหนี้ระยะสั้น 178 ล้านบาท ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินลดลง รวมถึงยังมุ่งเน้นขายสินค้าในกลุ่มที่ให้มาร์จิ้นสูง เช่น กลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในห้องผ่าตัด
นางสุนทรี ยังเปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อกิจการหรือการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งขณะนี้ก็มีการเจรจาราว 2-3 กิจการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้