โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) หลังมองเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีโอกาสมากในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากฐานการผลิตที่มีอยู่ใน 5 ประเทศซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรเติบโตในอนาคต นอกเหนือจากกำลังการผลิตในมือที่มีอยู่อีก 7 โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 59-62 ซึ่งจะช่วยหนุนให้มูลค่าหุ้นเติบโตตามไปด้วย รวมถึงยังมี Upside ที่จะเพิ่มขึ้นหากรัฐบาลปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวปี 58-79 (PDP2015) ใหม่ EGCO ก็มีความพร้อมที่จะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่เพื่อตอบโจทย์ภาครัฐบาลได้ทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้
ขณะที่มูลค่าหุ้น (Valuation) ยังไม่แพงเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมี P/E ในระดับกว่า 10 เท่า รวมถึงยังมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีความปลอดภัย (defensive stock) น่าสนใจต่อการลงทุนในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นมีความผันผวน
ราคาหุ้น EGCO ปิดตลาดวานนี้อยู่ที่ 196.50 บาท นับตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 29.7% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นราว 16%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เอเซีย พลัส ซื้อ 230 เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 220 เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 225 กสิกรไทย ซื้อ 220 ไอร่า ซื้อ 216 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 220 บัวหลวง ซื้อ 230
นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น EGCO เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเนื่องจากมีโอกาสจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งจากในประเทศและภูมิภาค ซึ่งในระดับภูมิภาค EGCO จะมีศักยภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ผลิตไฟฟ้าในประเทศรายอื่น เนื่องจากมีฐานการผลิตมากถึง 5 ประเทศทั้งไทย,ลาว,อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ทำให้มีโอกาสที่จะเติบโตได้ในประเทศที่มีฐานผลิตอยู่แล้ว โดยเฉพาะในฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ ยังจะมี Upside จากความพร้อมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี แห่งที่ 2 ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง และโรงไฟฟ้าขนอม หน่วยผลิตใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีการทบทวนแผน PDP2015 ใหม่หลังจากที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะต้องมีขึ้นตามแผนนั้นมีแนวโน้มที่จะล่าช้าออกไป ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ทางภาคใต้ของประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันยังไม่มีการรวมโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งไว้ในประมาณการผลการดำเนินงานของ EGCO เพราะต้องรอความชัดเจนจากทางรัฐบาลก่อน
"เราแนะนำ"ซื้อ"ปัจจัยพื้นฐานหุ้นดูโอเค ในแง่ของโรงไฟฟ้าก็มีโอกาสที่จะได้มาเรื่อย ๆ จากทั้งในประเทศและภูมิภาค เมื่อเทียบกับผู้ผลิตอื่นในบ้านเรา EGCO มีโรงไฟฟ้าอยู่ใน 5 ประเทศ โอกาสที่จะโตในประเทศที่มี Platform ที่มีอยู่แล้ว ดีกว่าคนอื่นที่มี 2-3 ประเทศ โดยเฉพาะที่ฟิลิปปินส์ ก็เป็นประเทศที่มีการเติบโตของการใช้ไฟเยอะ"นักวิเคราะห์ กล่าว
นักวิเคราะห์รายเดิม กล่าวว่า ในด้านมูลค่าหุ้นของ EGCO นับว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับกลุ่ม โดยมี P/E ระดับกว่า 10 เท่านั้น ขณะที่บริษัทยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน หุ้น EGCO นับเป็นหุ้น defensive stock ในธุรกิจไฟฟ้าที่น่าสนใจ เพราะมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า EGCO เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตที่ชัดเจนจากนี้ไปจากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ระหว่างการพัฒนา 7 โครงการ อีกทั้งยังคาดหวังได้กับ Upside ใหม่ ๆ ที่น่าจะทยอยมีข้อสรุปเร็วนี้ เช่น โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ในลาว โรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ ในเวียดนาม และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ปากแบง ในลาว รวมถึงส่วนขยายยูนิต 3 ของโครงการพลังความร้อนใต้พิภพ SEG ในอินโดนีเซีย และถือเป็นการต่อยอดการเติบโตในระยะยาว
ทั้งนี้ ได้ทำการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 59-60 เพื่อสะท้อนการปรับราคาขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าใต้พิภพ SEG หน่วยผลิตเดิมเพิ่มขึ้น 40% จากเดิม และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าถ่านหิน MPPCL อีก 8.05% ภายใต้ประมาณการใหม่แนวโน้มกำไรปกติปี 59 จะกลับมาเติบโตสูงถึง 20% จากปีที่แล้ว โดยในระยะสั้นคาดกำไรปกติครึ่งหลังปีนี้ จะเติบโตจากงวดครึ่งปีแรก โดยได้แรงหนุนจากการเริ่มผลิตของโครงการขนอม หน่วย 4 รวมถึงการรับรู้สัดส่วนการลงทุนเพิ่มอีก 8.05% ในโรงไฟฟ้า MMPCL เป็นหลัก
ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การลงทุนของ EGCO มุ่งเน้นไปที่โรงไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าการขยายธุรกิจในประเทศจะเผชิญแรงกดดันอยู่ในขณะนี้ แต่ก็มองเห็นโอกาสการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศที่บริษัทมีโครงการลงทุนอยู่แล้ว นอกจากนี้ในแผนการลงทุนระยะยาว EGCO ยังพิจารณาโอกาสที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ อย่างเช่น เหมืองถ่านหิน หรือธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) อีกด้วย
สำหรับความเสี่ยงที่กำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่จะไม่สามารถส่งเข้าสู่ระบบได้ครบตามแผน PDP2015 ก็อาจจะกลายเป็น Upside ให้กับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน BLCP และโรงไฟฟ้าขนอม ของ EGCO ซึ่งมีความพร้อมที่จะสร้างหน่วยผลิตใหม่ เพื่อส่งไฟฟ้าเข้าระบบได้ทันที ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าใต้พิภพ SEG หน่วยที่ 3 ก็มีความคืบหน้าให้เห็น โดยปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาอัตราค่าไฟฟ้า และการศึกษาประสิทธิภาพของไอน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้า
ขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการของ EGCO มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับปี 59 ที่ 3.25 บาท/หุ้น โดยปันผลรอบนี้คิดเป็น 50% ของประมาณการทั้งปีที่เคจีไอฯทำไว้ 6.50 บาท/หุ้น ทำให้มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ EGCO จะจ่ายปันผลปีนี้มากกว่าที่ประมาณการไว้