นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้หลังจากที่ได้ปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ตลาดฯยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา อาจทำให้การรีบาวด์อยู่ในกรอบจำกัดได้
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ มองว่าอาจเป็นการพักตัวก็ได้หลังจากที่ได้ปรับขึ้นไปในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ยังไม่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะต้องรีบขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้น ตลาดโดยรวมมองว่าเป็นการพักตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่
"ตลาดบ้านเราวันนี้อาจจไม่เป็นไปตามตลาดภูมิภาคก็ได้ เพราะในทางเทคนิคเห็นว่าดัชนีฯได้ลงมาในแนวดิ่ง ก็น่าจะรีบาวน์ขึ้นได้แต่อาจอยู่ในกรอบจำกัด"นายธนเดช กล่าว
สำหรับการประชุมธนาคารกลางายุโรป (ECB) วันนี้ (8 ก.ย.) ก็ยังมีความคาดหวังว่าจะมีมาตรการเพิ่ม อย่างการขยายวงเงินซื้อพันธบัตร เพราะพันธบัตรจะหมดอายุในเดือน มี.ค.60
พร้อมให้นแนวรับ 1,477 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,526.14 จุด ลดลง 11.98 จุด (-0.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,283.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.02 จุด (+0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,186.16 จุด ลดลง 0.32 จุด (-0.01%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 28.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 37.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 17.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.96 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.ย.59) 1,487.20 จุด ลดลง 9.70 จุด (-0.65%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 437.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ก.ย.59) ปิดที่ 45.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.ย.59) ที่ 5.89 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.66 ทิศทางอ่อนค่าตามภูมิภาค จับตา Fund Flow - ผลประชุม ECB คืนนี้
- หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เสนอให้มีการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักการข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) โดยจะมีการแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในหลายประเด็น ทำให้ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายรวมตัวกันแถลงจุดยืนต่อการแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยฯ ในวันนี้
- รมว.คมนาคม เผยรัฐบาลมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางในช่วงระยะ 8 ปี (2558-2565) คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร 10 สายทาง รถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง และรถไฟฟ้าความเร็วสูง 4 เส้นทาง ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาบุคลากรและผู้ประกอบการรองรับ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานปริมาณการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด หรือผ่านทางเครือข่าย (อี-เพย์เมนต์) ล่าสุดในเดือน มิ.ย.59 พบว่า มีปริมาณ อี-เพย์เมนต์รวม 175 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 42 ล้านรายการ หรือ 31.33%
- กบง.สั่งตรึงราคาแอลพีจี เดือน ก.ย.ที่ 20.29 บาท/กก. มีมติลดเงินเก็บเข้ากอง ทุนเชื้อเพลิง หักลบกับราคา ต้น ทุนที่เพิ่มขึ้น 23.41 สตางค์/กก. พร้อมรับทราบ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมัน เตรียมตั้งสำนักงาน
- ทูตพาณิชย์ประเมินส่งออกปี 60 โต 3% หลังมองเศรษฐกิจโลก-คู่ค้าดีขึ้น เตรียมชง "อภิรดี" เคาะวันที่ 9 ก.ย.นี้ ด้าน "สุวิทย์" มอบนโยบาย ขอให้ช่วยขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 รุกส่งออกสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม ใช้นวัตกรรมเข้าช่วย
- พาณิชย์เรียกเก็บ อากรเอดีท่อเหล็กไร้สนิมจาก เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน เวียด นาม อัตรา 2.38-310.74% หลังทุ่มตลาดไทยจนผู้ประกอบการเสียหาย พร้อมเปิดไต่สวนเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบสังกะสี แบบจุ่มร้อน
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPN (โกลเบล็ก) เป้า 75 บาท ผู้นำธุรกิจค้าปลีกให้เช่าที่มีแผนเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องปีละ 2-3 แห่ง โดยได้ปรับประมาณการกำไรปี 59 เพิ่มขึ้นเป็น 8,572 ล้านบาทเติบโต 9% พร้อมคาดกำไรปี 60 โต +5% เป็น 9 พันลบ. จากการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่งที่นครราชสีมา ภูเก็ตเฟส 2 และมหาชัย ส่วนปี 61 จะเริ่มรับรู้รายได้โครงการคอนโดฯใกล้ศูนย์การค้าสาขาเชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่น
- CPF (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 42 บาท ยังประเมินราคาหมู+ไก่ยืนสูง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์เช่น กากถั่วเหลือง ข้าวโพดปรับตัวลงสวนทาง ทำให้คาดแนวโน้ม H2/59 จะโตเด่น โดยเฉพาะไตรมาส 3/59 เป็น High season นอกจากนี้ วันนี้มีข่าวไก่จีนขาดแคลน ส่งผลให้หลายประเทศเพิ่มการนำเข้าไก่จากไทย ประเมินแนวรับ 31 บาท และ 30 บาท (กำหนด 30 บาท เป็นจุด Stop loss) แนวต้านแรก 32 บาท และ 33.5 บาท
- BEAUTY (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 10.20 บาท ช่วง H2/59 คาดกำไรโตเด่นทั้ง HoH และ YoY จากเข้าสู่ High Season บวกกับ คงแผนขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง หนุนทั้งปี 59 คาดกำไรโต 36.0%YoY และโตต่อ 29.8%YoY ในปี 60 + Upside 16% และคาดให้ Div. Yield ปีละ 2%
- EPG (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 17.50 บาท ปี 59/60 คาดกำไรปกติโต 32.9%YoY และโตต่อ 19.2%YoY ในปี 60/61 จากการโตทั้งธุรกิจฉนวนยาง อุปกรณ์ยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งคาด TJM จะมีผลดำเนินงานที่ดีขึ้นหลังเปลี่ยนระบบจัดซื้อสินค้า และธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะกลับมาโตหลังใช้เครื่องจักรใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมี Upside 22%
- SCI (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 13.50 บาท คาดจะพลิกเป็นกำไรได้ในไตรมาส 3 จากการรับรู้รายได้ในโครงการสายส่งไฟฟ้า 500 kV และรอเซ็นสัญญาอีก 2 โครงการมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท ช่วยหนุนการเติบโตได้ 3-4 ปีข้างหน้า
- KSL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ทยอยซื้อลงทุน"เป้า 4.60 บาท จัดเป็น Top Pick ของกลุ่มน้ำตาลกำลังจะผ่านกำไรที่แย่ที่สุดในปีนี้ใน Q3-Q4/59 ก่อนจะสดใสในปี 60 โดยคาดกำไร Q3 (พ.ค.-ก.ค.) -20% Q-Q, -37% Y-Y ธุรกิจชะลอลงทั้ง 3 ประเภท โดยธุรกิจน้ำตาลแย่ลง ราคาขายถูกล็อคไว้ตั้งแต่ปีก่อนในระดับต่ำ ธุรกิจไฟฟ้าและเอธานอลแผ่วลง พร้อมปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 30% เป็นทรงตัวจากปีก่อน แต่คาดปีหน้าโตสูง 42% ตามราคาน้ำตาลสูงขึ้นจากภาวะขาดดุลน้ำตาล