นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่ารายได้และกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 1,250.87 ล้านบาท หรือเติบโต 36% และมีกำไร 153 ล้านบาท เติบโต 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมั่นใจว่าทั้งปีรายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 40%
ปัจจุบันบริษัทมีงานรับเหมาในมือ (Backlog) ราว 600 ล้านบาท และจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 350 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมเข้าซื้อสถานีบริการก๊าซ NGV เพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งจะส่งผลให้ ณ สิ้นปี บริษัทมีสถานีบริการทั้งหมด 10 แห่ง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้จากธุรกิจสถานีบริการก๊าซ NGV ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่ธุรกิจการให้บริการก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้จะมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติอัดไปสู่โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบีทียู/วัน รวมถึงธุรกิจปรับปรุงคุณภาพก๊าซธรรมชาติที่จะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้
"ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเรามีงาน EPC ในมือที่ยังรอรับรู้รายได้อีกเยอะ จากที่ช่วงครึ่งปีแรกที่มีไม่มาก และปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติที่จะเพิ่มขึ้นตามสถานีบริการที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ทำให้เรามั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ และกำไรสุทธิเองก็จะมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกับรายได้เช่นกัน"นายฤทธี กล่าว
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม)กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ บริษัทฯยังคงมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ทันตามกำหนดก่อนวันที่ 30 ธ.ค.59 แน่นอน นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเข้าไปมีส่วนร่วมในการประมูลโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์การเกษตรรอบใหม่ แต่ไม่ได้คาดหวังมากนักเพราะคงเป็นการจับสลากเหมือนครั้งก่อน
นายฤทธี กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัท อีโค่ โอเรียนท์ จำกัด จากเกาะฮ่องกง เพื่อรับสิทธินำก๊าซธรรมชาติที่เกิดจากกระบวนการขุดเจาะน้ำมัน (Associated Gas) ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ไปใช้ประโยชน์นั้น เบื้องต้นจะลงทุนในโครงการเป็นเฟสที่ 1 ก่อน กำลังผลิต 700,000 ลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อนำก๊าซธรรมชาติจากบ่อน้ำมันที่มีค่าความร้อนสูง มาผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพก๊าซให้มีค่าความร้อนที่เหมาะสมต่อการนำไปใช้ในเป็นเชื้อเพลิงยานยนต์ เพื่อจำหน่ายต่อไปยังสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ตั้งอยู่ภายในจังหวัดเพชรบูรณ์หรือจังหวัดใกล้เคียง
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายก๊าซฯดังกล่าวได้ในช่วงครึ่งแรกปี 60 และหากมีความต้องการมากพอบริษัทจะพิจารณาก่อสร้าง เฟสที่ 2-3 ในช่วงต้นปี 61 ทันที
สำหรับแผนการขยายสถานีบริการ NGV ในปี 60 บริษัทตั้งเป้าที่จะเปิดเพิ่มอีก 6 แห่ง แบ่งเป็น 3 แห่งเป็นการเข้าซื้อ และอีก 3 แห่งเป็นการพัฒนาเอง โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตในการก่อสร้าง และประกอบกิจการ ซึ่งจะใช้งบลงทุนราวแห่งละ 60 ล้านบาท