นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เปิดเผยว่า การเสนอขายเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ราคา 5.20 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท จำนวน 200 ล้าน คิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งการเสนอขายหุ้นต่อผู้ถือหุ้นสามัญของ ILINK ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.และ 1-2 ก.ย.59 โดยกำหนดสัดส่วนการจองซื้อที่อัตรา 6.0404 หุ้น ILINK ต่อ 1 หุ้น ITEL จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น มีผู้ถือหุ้นแสดงความประสงค์จองซื้อหุ้นเต็มจำนวน และระหว่างวันที่ 7-9 ก.ย.59 เปิดจำหน่ายต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 140 ล้านหุ้นมีผู้สนใจจองซื้อล้นหลาม
"นักลงทุนให้การตอบรับหุ้นไอพีโอของ ITEL ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เปิดให้นักลงทุนที่เป็นผู้ถือหุ้น ILINK จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น พบว่ามีผู้ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยนอกจากผู้ถือหุ้น ILINK จะจองซื้อตามสิทธิเกือบครบทั้งจำนวนแล้ว ยังมีการจองเกินสิทธิเข้ามาเป็นจำนวนมาก สำหรับหุ้นที่เหลือจำนวน 140 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเปิดจองให้กับนักลงทุนสถาบัน 35 ล้านหุ้น และนักลงทุนทั่วไปก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม"นายสมภพ กล่าว
ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่นักลงทุนมีต่อบริษัทฯ เนื่องจากเป็นธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีที่มีรายได้ประจำต่อเนื่องมีการเติบโตในอัตราที่โดดเด่น มีความสามารถในการทำกำไรที่ดี และมีแผนธุรกิจในอนาคตอย่างชัดเจน ภายหลังการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้ฐานะทางการเงินของ ITEL มีความแข็งแกร่ง พร้อมขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ประกอบกับการที่ได้กำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ 5.20 บาท/หุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มั่นใจว่า ITEL จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
ด้านนายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ ITEL กล่าวว่า หุ้น IPO ของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ เป็นเพราะบริษัทฯ มีพื้นฐานที่โดดเด่น และมีศักยภาพในการเติบโตทั้งจากธุรกิจให้บริการด้านโทรคมนาคม และศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ 1,040 ล้านบาทไปใช้ในการปรับปรุงและขยายประสิทธิภาพโครงข่ายเพื่อรองรับความต้องการใช้งานและเพื่อเพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพการให้บริการ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจพื้นที่ศูนย์ดาต้าเซ็น เตอร์ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระหนี้บางส่วนเพื่อช่วยให้ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
"หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ ITEL ในฐานะผู้นำในธุรกิจให้บริการในธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่ง ITEL มีจุดเด่นที่โครงข่ายเป็นเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง ทั้งเส้นทางครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ และมีเส้นทางที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น มีศักยภาพการเติบโตสูงจากการเข้าสู่ยุคดิจิตอล จึงคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงต่อจากนี้จะสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว โดย ITEL พร้อมแล้วที่จะนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในวันที่ 14 กันยายนนี้"นายณัฐนัยกล่าว