บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในปี 60 จะเติบโตขึ้นเป็น 10% จากปีนี้อยู่ในระดับ 8-9% หากภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ากำไรจะสูงกว่าปีก่อน ตามมูลค่าการซื้อขายของตลาดฯ ที่สูงขึ้น ขณะที่งานด้านวาณิชธนกิจมีส่วนช่วยสนับสนุน ซึ่งในช่วงก่อนสิ้นปีนี้จะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 2 ราย และในปีหน้ามีอีกอย่างน้อย 5-6 ราย
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MBKET เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่า ณ สิ้นปีนี้บริษัทฯจะมีบัญชีลูกค้าทั้งหมดราว 1.8 แสนบัญชี จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 1.7 แสนบัญชี และรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 8-9% ก่อนที่จะขึ้นไปเป็นไม่ต่ำกว่า 10% ในปี 60 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายที่คาดว่าจะดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐฯ
ส่วนผลงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที 1,019.23 ล้านบาท ตามปริมาณการซื้อขายที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท/วัน และเฉลี่ยทั้งปีจะมากกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท/วัน รวมไปถึงธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ (IB) ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ในช่วงที่เหลือของปีนี้เตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อีก 2 บริษัทคือ บมจ.สหกล อิควิปเมนท์ (SQ) และ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ ที่ร่วมมือกับ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) และ กลุ่มทิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (TISCO) ขณะที่ปี 60 จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 5-6 บริษัท จากดีลในมือ 15-20 บริษัท
"ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังเราค่อนข้างเชื่อว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นตามปริมาณการซื้อขายในตลาดฯที่สูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับในธุรกิจ IB เราก็ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งเรามีดีลอยู่ในมือแล้ว 15-20 ดีล ที่จะทยอยเข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ ปีหน้า และถัดไป"นายมนตรี กล่าว
นายมนตรี กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัยความไม่แน่นอนทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นยังต้องจับตาคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.หรือไม่ เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ค่อนข้างเอื้อต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งหากมีการปรับขึ้นจริงจะกระทบต่อเศรษฐกิจ ตลาดเงิน และตลาดทุน ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม MBKET จะมีการปรับเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ จากเป้าหมายดัชนีในปีนี้ที่คาดไว้เดิมที่ 1,650 จุด