นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีซี พาวเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 200% จากปีก่อนทำได้ 304.90 ล้านบาท ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ที่จะเพิ่มเป็น 40 เมกะวัตต์(MW) จากปีก่อนมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD เพียง 20 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้วจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) และโรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) รวมถึงโรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG) ที่คาดจะสามารถ COD ได้ภายในเดือนก.ย.นี้
ขณะที่ในปี 60 รายได้ของบริษัทจะเติบโตก้าวกระโดดอีกครั้ง จากกำลังผลิตไฟฟ้าที่จะทยอย COD ตามแผน นอกจากนี้บริษัทมีความสนใจยื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชน หลังจากที่ภาครัฐจะเปิดให้มีการประมูลสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลราว 400 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ที่จะเปิดรับซื้อไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีโอกาสชนะประมูลสูง รวมถึงยังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศ อีก 2-3 แห่ง คาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนได้ภายในปีนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศจะเพิ่มเป็น 250 เมกะวัตต์ ในปี 63 ตามแผน
สำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าต่างประเทศนั้น บริษัทจะลงนามบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) กับลาว ในเดือนต.ค.นี้ เพื่อเข้าศึกษาการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ Sebanhieng กำลังการผลิตราว 80 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นการลงทุนเอง 100% แต่การลงทุนโครงการนี้ต้องใช้เวลาศึกษาทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนจะยื่นขอ PPA ซึ่งคาดว่ากว่าจะได้ก่อสร้างใช้เวลา 4-5 ปี
ปัจจุบัน TPCH กำลังผลิตไฟฟ้าในมือเฉพาะในประเทศราว 110 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้งหมด ขณะที่ล่าสุดได้ซื้อหุ้น 45% ในบริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะชุมชน ขนาดราว 10 เมกะวัตต์ และมีแผนที่จะเสนอขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐราว 8 เมกะวัตต์