นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พรีเมียร์ โพรดักส์ (PPP) คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนทำได้ 1,514.22 ล้านบาท เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะจากงานโครงการภาครัฐที่ทยอยออกมามากขึ้นส่งผลบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 400 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ราว 80% และในส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 60 ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทรอเข้าประมูลงานก่อสร้างและงานติดตั้งระบบอาคาร มูลค่าราว 200 ล้านบาท คาดหวังจะได้รับงานราว 80-90% ของมูลค่างานทั้งหมดที่เข้าประมูล
ขณะที่ธุรกิจระบบบำบัดน้ำเสีย ขณะนี้มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาคารขนาดใหญ่ อย่างเช่น สำนักงาน โรงพยาบาล หอพัก คอนโดมิเนียม เป็นต้น
"เรามองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากผู้รับเหมาเร่งดำเนินการเพื่อส่งมอบงานให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ และอุตสาหกรรมก่อสร้างก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากงานโครงการต่าง ๆ ที่เริ่มออกมากมาขึ้น ทำให้น่าจะส่งผลดีทำให้คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%"นายสุรเดช กล่าว
นายสุรเดช กล่าวว่า บริษัทยังมีธุรกิจโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขนาด 15 เมกะวัตต์ที่จะรับรู้รายได้ต่อปีราว 300 ล้านบาท ขณะที่ก็รอภาครัฐเปิดประมูลงานโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยบริษัทคาดจะเข้ายื่นประมูลเพื่อทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ขนาด 15-20 เมกะวัตต์ คาดว่าภาครัฐจะเปิดประมูลในช่วงปี 60 โดยบริษัทจะร่วมกับพันธมิตรเพื่อยื่นเสนอโครงการดังกล่าว ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ขณะที่พันธมิตรจะสนับสนุนในแง่ของบุคลากรและที่ดินสำหรับใช้พัฒนาโครงการ
สำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา,ลาว,เมียนมา และเวียดนาม เพื่อเข้าไปลงทุนผลิตโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิต 15-20 เมกะวัตต์ คาดจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 4/59
ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากโรงไฟฟ้า 30% และรับเหมา-ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย 70%