นายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราช (SR) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้น่าจะดีกว่าระดับ 67.44 ล้านบาทในปีก่อน แม้ว่ารายได้จะทำได้ต่ำกว่าระดับ 1.6 พันล้านในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลต่องานโครงการออกมาล่าช้า แต่บริษัทมีการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น รวมถึงงานก่อสร้างและติดตั้งระบบปั๊มอุตสาหกรรม งานก่อสร้างและติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) มีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการทำกำไรของบริษัท
ทั้งนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการรับรู้งานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ 800 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 50% ขณะเดียวกันก็เตรียมเข้าประมูลงานโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายสถานีบริการ NGV ในภาคเหนือ เพิ่มอีก 1 แห่ง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาตกลงเรื่องของราคาค่าเช่ากับเจ้าของพื้นที่ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายไตรมาส 1/60 หรือต้นไตรมาส 2/60 วางงบลงทุนไม่ถึง 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการ NGV จำนวน 2 แห่ง จากเดิมมีทั้งสิ้น 4 แห่ง เนื่องจากมีการปิดให้บริการหลังพบรายได้น้อย ไม่คุ้มกับต้นทุน ซึ่งจากการปิดไป 2 แห่งนั้นไม่มีผลกระทบต่อรายได้มากนัก
นายเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย เพื่อลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าประเภทโซลาร์ฟาร์ม โดยมองขนาดการลงทุนที่ 5-10 เมกะวัตต์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการเข้าซื้อและการก่อสร้างเอง โดยจะพิจารณาโรงไฟฟ้าที่มีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) อยู่แล้ว และมีใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ ขณะที่มีแหล่งเงินพร้อมที่จะใช้ในการลงทุน เนื่องจากมีเงินสดในมืออยู่ราว 600 ล้านบาท ประกอบกับยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้อีกมาก
"รายได้ในปีนี้น่าจะต่ำกว่าปีก่อน จากปีนี้มีงานในมือที่น้อยลง เมื่อเทียบกับปี 58 แต่เรามองว่ากำไรสุทธิน่าจะดีกว่าปีก่อน จากการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามเราก็มองการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจพลังงาน ซึ่งมีรายได้ที่มั่นคง โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม หากสามารถสรุปได้ภายในปีนี้ ก็น่าจะส่งผลทำให้บริษัทมีการเติบโตที่ดีขึ้น และน่าจะเห็นความชัดเจนของการเติบโตได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/59 เป็นต้นไป"นายเกียรติ กล่าว