นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) คาดว่ารายได้ในงวดปี 59 (สิ้นสุด ก.ย.59) จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 10% จากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากที่คาดโต 17% มากกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดวาจะเติบโต 10% มาเป็นจำนวนผู้โดยสารทะลุ 100 ล้านคน เนื่องการท่องเที่ยวของไทยขยายตัวอย่างมาก และมีการเดินทางสูง ขณะที่สายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airlines) เติบโตถึง 20% และสายการบินทั่วไปเติบโต 6%
และในงวดปี 60 จึงคาดว่ารายได้และจำนวนผู้โดยสารจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10% ตามการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตสูงขึ้น เนื่องจากไทยเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อการท่องเที่ยวไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น กัมพูชา และลาว
ดังนั้น AOT จึงต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขยายอาคารผู้โดยสาร (Terminal) แห่งที่ 2 มูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาทที่จะรองรับผู้โดยสารเพื่มอีก 30 ล้านคน/ปี เป็น 90 ล้านคน/ปี กำหนดแล้วเสร็จในปี 64 และงานก่อสร้างทางวิ่งอากาศยาน (Runway) แห่งที่ 3 ความยาว 4,000 เมตร มูลค่าลงทุน 2 หมื่นล้านบาท แบ่งใช้ในงานก่อสร้าง 1 หมื่นล้านบาท และงบชดเชยผลกระทบด้านเสียงอีก 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 63 ทั้งนี้ จะเปิดประมูลงานทั้งสองโครงการภายใน 6 เดือนจากนี้หรือภายในไตรมาส 1/60
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) แบ่งออกเป็น 7 งาน เปิดประมูลไปแล้ว 3 งาน ซึ่งได้เริ่มงานก่อสร้างวันนี้
ส่วนอีก 4 งานจะเปิดประมูลให้เร็วที่สุด โดยหลังจากนี้ AOT จะดำเนินการในส่วนของงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) (CC4) ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกประกาศประกวดราคาได้ภายในเดือนต.ค.59 และเริ่มงานก่อสร้างในเดือนก.พ.60 โดยงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบ APM จะเป็นสัญญาที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด คือ 33 เดือน
ขณะที่งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (CC1/1) กำหนดระยะเวลาดำเนินการภายใน 780 วัน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนต.ค.61 และงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (CC3) กำหนดระยะเวลาดำเนินการภายใน 990 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ค.62
"หากสามารถดำเนินการได้ตามกำหนดการดังกล่าวจะทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) จะเสร็จตามกำหนดในเดือนพฤศจิกายน 2562 "นายนิตินัย กล่าว
ทั้งนี้ AOT ได้รับอนุมัติโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ส.ค.53 โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 15 ล้านคนต่อปี คือจากเดิม 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี ประกอบด้วย กลุ่มงานก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก กลุ่มงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1
กลุ่มงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และงานจ้างที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการในวงเงิน 62,503.214 ล้านบาท เนื่องจากโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นโครงการเพิ่มขีดความสามารถให้สามารถรองรับกิจการขนส่งทางอากาศที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
โดยเมื่อวันที่ 25 ส.ค.59 ที่ผ่านมา AOT ได้ลงนามในสัญญาจ้างงานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) (CC1/1) ส่วนงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (CC3) และงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (CSC)
ทั้งนี้ ในวันนี้ AOT ได้จัดให้มีพิธีเริ่มงานก่อสร้างสำหรับ 3 งานดังกล่าว ซึ่ง AOT ได้รับเกียรติจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ พื้นที่ก่อสร้างบริเวณด้านทิศใต้ของอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถปรับลดวงเงินได้ถึง 9.4 พันล้านบาท จากงบประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท เหลืองบ 5.26 หมื่นล้านบาท