ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,479.07 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด (+1.07%) มูลค่าการซื้อขาย 83,257.04 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,479.07 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,466.76 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 735 หลักทรัพย์ ลดลง 418 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 360 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง ดัชนีฯปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกตามตลาดสหรัฐฯที่เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้ส่วนใหญ่จะติดลบ
โดยตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากการเพิ่มน้ำหนักของ FTSE ในหุ้นไทยหลายตัว และ Valuation น่าสนใจหลังจากที่ได้ปรับตัวลงมาแรงในช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มชะลอ ทำให้ตลาดฯดูดีขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต กล่าวว่า ขึ้นกับ 2 ปัจจัยคือ การประชุมเฟด และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หากเฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ BOJ มีโอกาสราว 50% ที่จะออกมาตรการเพิ่มได้ แต่คงเป็นมาตรการเดิม ๆ อย่างปรับลดอัตราดอกเบี้ย และ/หรือ เพิ่มวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งถ้าออกมาแบบนี้ก็มองว่าดัชนีฯน่าจะแกว่ง Sideway up ขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,500 จุด ได้ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,430 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCC มูลค่าการซื้อขาย 10,272.72 ล้านบาท ปิดที่ 524.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 6,212.16 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,146.70 ล้านบาท ปิดที่ 187.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,343.80 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,366.24 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 1.00 บาท