นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บิวเดอสมาร์ท (BSM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจารับงานประตูและหน้าต่างที่ประเทศปาปัวนิวกินี มูลค่าราว 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาได้ในช่วงไตรมาส 4/59 โดยหากได้รับงานดังกล่าวจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้มีโอกาสดีกว่าครึ่งปีแรก นอกเหนือจากยอดขายเพิ่มขึ้นตามช่วงไฮซีซันของธุรกิจแล้ว ประกอบกับบริษัทได้รับผลดีจากโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมหลายโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในครึ่งปีหลัง รวมถึงการรับงานปรับปรุงออฟฟิศที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย
อีกทั้งกลยุทธ์ในการดำเนินในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทจะเน้นผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทประตูวงกบที่ปรับตามผนัง ซึ่งที่ผ่านมามียอดขายจากสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้นและเป็นสินค้าที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงในระดับ 20-30% เมื่อเทียบกับสินค้าปกติ รวมถึงจะเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยการก่อสร้างบ้านได้รวดเร็วถึง 45-60 วัน โดยจะเจาะกลุ่มลูกค้าในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำรายได้ในปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่ 700 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน โดยรายได้จะมาจากธุรกิจการผลิต จำหน่ายอลูมิเนียม อัลลอย หรือจากการดำเนินธุรกิจของ BSM จำนวน 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจการผลิตและจำหน่ายประตู หน้าต่าง หรือจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด (D&W) ซึ่งเป็นบริษัทลูก จำนวน 200 ล้านบาท และบริษัทคาดว่าจะยังคงมีกำไรต่อเนื่องจากปีก่อน แม้ภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศและอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จะยังคงชะลอตัวอยู่บ้างก็ตาม
ด้านความคืบหน้าโครงการ Sansara (แซน-สรา) มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ วิลล่า และคอนโดมิเนียม โดยคาดว่าวิลล่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 60 ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 60 ถึงต้นปี 61 ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านตัวอย่าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ เบื้องต้นประเมินยอดพรีเซลน่าจะทำได้ราว 40% ซึ่งมีกำหนดเปิดพรีเซลในช่วงเดือนต.ค.นี้
ปัจจุบันได้อยู่ระหว่างการคัดเลือกเซลล์เอเจนซี่ ทังนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จากโครงการ Sansara ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปี 60 เป็นต้นไป และตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 50% ภายในปี 64
สำหรับโครงการ Sansara เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยในวัยเกษียณ โดยมีรูปแบบที่พักอาศัยประเภทวิลล่า จำนวน 13 หลัง ค่าเช่ายูนิตละ 13-20 ล้านบาท และที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมสูง 3 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และมีจำนวนยูนิต 10 ยูนิตต่ออาคาร ยูนิตละ 8-15 ล้านบาท โดยผู้พักอาศัยในโครงการนี้จะเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิการเช่าจากบริษัทตลอดชีพ และได้รับสิทธิใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการของแบล็คเมาเทนท์ อีกด้วย อย่างไรก็ดีบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าในอนาคตประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างมาก