นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้แต่ก็คงจะอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก จากที่เชื่อว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เป็นไปได้น้อย เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯถือว่ายังไม่แข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ดีต้องติดตามการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ด้วย แม้คาดว่าไม่น่าจะมีมาตรการใดออกมา อย่างไรก็ดี ตลาดฯตอนนี้ก็ได้ผ่อนคลายหลายปัจจัยไปแล้ว แต่เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นไทยรีบาวด์แรงกว่าตลาดอื่น ทำให้มองว่าการปรับตัวขึ้นวันนี้คงจะอยู่ในกรอบจำกัด
พร้อมให้แนวรับ 1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,123.80 จุด ลดลง 88.68 จุด (-0.49%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,244.57 จุด ลดลง 5.12 จุด (-0.10%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,139.16 จุด ลดลง 8.10 จุด (-0.38%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 151.03 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 8.88 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 16.88 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 101.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.93 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ (19 ก.ย.) เนื่องในวันผู้สูงอายุ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ก.ย.59) 1,479.07 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด (+1.07%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,765.15 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ก.ย.59) ปิดที่ 43.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 88 เซนต์ หรือ 2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ก.ย.59) ที่ 7.35 หรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.85/90 แนวโน้มทรงตัว รอดูผลประชุมเฟดสัปดาห์นี้
- พาณิชย์เตือนผู้ส่งออกรับมือเงื่อนไขการกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เผยมาตรการเข้มมีทั้งบังคับใช้แล้ว และรอบังคับใช้อีกเพียบ ระบุรอบปี 58 ที่ผ่านมา ทุกประเทศงัดมาตรการกีดกันมาใช้รวมกันกว่า 3.5 หมื่นมาตรการ สหรัฐฯ นำโด่ง ตามด้วยอียูและญี่ปุ่น
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีนัดประชุมร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดเพื่อปรับแผนการทำงาน และออกมาตรการเพิ่มกำลังซื้อสำหรับการผลักดันเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากประเมินแล้วว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้การส่งออกไทยไม่สามารถผลักดันให้ขยายตัวได้มากกว่านี้ หรือทำได้แค่ประคองตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก
- รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า หากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 360 บาท/วัน ถือว่าสูงเกินไป และในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีจะมีผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างมาก และอาจทำให้โรงงานปิดตัวเพิ่มมากขึ้น
- ธปท.เล็งคลายกฎให้แบงก์ปล่อยกู้เงินบาทให้แก่ลูกค้า ต่างชาติสำหรับโครงการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านไม่เกินสิ้นปี 59 ถือเป็นการสนับสนุนกิจกรรมเศรษฐกิจไม่ได้เปิดทางให้เก็งกำไรค่าเงิน ระบุให้แบงก์รายงานเงินทุนต่างชาติ หวังทราบข้อมูลลักษณะการลงทุน ประเภทของนักลงทุน ต้นตอของเงินมาจากประเทศหรือภูมิภาคใด
- ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้เห็นชอบตามที่สำนักงานสลากฯ เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลาก พ.ศ. 2517 โดยให้กันเงิน 1% ของยอดขายมาตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม มีเพดานไม่เกิน 1,000 ล้านบาท/ปี และให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการใช้เงินตามวัตถุประสงค์ ที่ได้กำหนดไว้ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใน 4 แนวทาง คือเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการพนัน สาเหตุและผลกระทบจากการพนัน
*หุ้นเด่นวันนี้
- AOT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 470 บาท ปรับกำไรปกติปี 60 (ต.ค.59-ก.ย.60) ขึ้น 4% จากการเริ่มใช้ส่วนปรับปรุงของท่าอากาศยานภูเก็ตเต็มปีในปี 60 ช่วยเพิ่มกำลังรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคน เป็น 12.5 ล้านคน ทำให้คาดกำไรปกติปีหน้า +13% ส่วนปี 59 คาดกำไรปกติ +17% โดยกำไร Q4/59 (ก.ค.-ก.ย.59) คาด -12% Q-Q จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้นตามฤดูกาล และ +10% Y-Y
- BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 16.8 บาท คาดปี 59 พลิกมีกำไร 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากการโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาจะทำการผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วย และปรับลดการลงทุนในธุรกิจถ่านหินเพื่อเน้นธุรกิจโรงไฟฟ้าสู่ 2.4 GW ในปี 63 โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 1.63 GW (รวมโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 หน่วย) พร้อมเตรียมนำ BANPU POWER (BPP) เข้าตลท.ในช่วง 2H59 ซึ่งจะช่วยชำระคืนเงินกู้แก่ BANPU ราว 400 ล้านดอลลาร์ และลดภาระดอกเบี้ยได้ราว 800 ล้านบาทต่อปี และราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 69.9 US/Tons
- COM7 (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า Consensus 10.15 บาท ยอดจอง iPhone7 ในต่างประเทศดีกว่าคาด และคาดผลตอบรับในไทยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็น Sentiment บวกต่อ COM7 ด้านรูปแบบราคาฟื้นตัวขึ้น โดยรูปแบบราคาในรายชั่วโมง มีแนวต้านสั้นที่ 10.30 บาท และแนวรับแรกที่ 9.85 บาท หาก Breakout แนวต้านดังกล่าวได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 10.5 บาท และ 11.0 บาท (Stop loss 9.4 บาท)
- MINT (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 45 บาท ราคาหุ้นร่วงลงมาแรงถึงประมาณ 7-8% ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นมี upside ในระดับที่น่าสนใจที่จะเข้าลงทุน โดยประเมินว่ายังมี upside อีกประมาณ 15% ซึ่งเปิดช่องให้สามารถเข้าเก็งกำไรได้จากข่าวดีเรื่องผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมที่จะเร่งตัวขึ้นใน 3Q16