(เพิ่มเติม) RS คาด Q3/59 ยังขาดทุนเหตุค่าใช้จ่ายธุรกิจ H&B สูง,เล็งปรับผังรายการ"ช่อง 8"ใหม่หนุนรายได้ทะลุเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 20, 2016 14:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บมจ.อาร์เอส (RS) คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 มีโอกาสที่จะขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาส 2/59 ที่ขาดทุนสุทธิ 85 ล้านบาท เพราะยังมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่าง ๆ ที่สูงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนคอนเทนต์ของช่อง 8 ซึ่งเป็นช่องดิจิตอลทีวี และการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม (H&B) ที่ค่าใช้จ่ายการทำตลาดและการโฆษณาที่สูง ขณะที่เตรียมปรับผังรายการช่อง 8 ใหม่ในไตรมาส 4/59 ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ของช่องให้ทะลุเป้า 2 พันล้านบาท และผลักดันให้รายได้รวมของบริษัทในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 4.5 พันล้านบาท

"แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/59 ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะพลิกกลับมามีกำไรหรือขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาส 2/59 แต่หากมองในกรณีที่แย่ที่สุดนั้นมีโอกาสที่จะยังคงขาดทุนต่อจากไตรมาส 2/59 เพราะยังมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่าง ๆ ที่สูงอยู่...ธุรกิจ H&B ที่เพิ่งเริ่มทำการตลาดและการขายของ 2 ผลิตภัณฑ์หลัก คือ Magique และ Revive ที่ยังต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดและการโฆษณาที่สูงอยู่ จึงส่งผลกดดันผลการดำเนินในไตรมาส 3/59 อยู่"นางพรพรรณ กล่าว

นางพรพรรณ กล่าวว่า ธุรกิจ H&B แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่บริษัทมองว่าธุรกิจนี้จะสร้างการเติบโตได้ในระยะกลางและยาว ซึ่งปีนี้คาดว่าธุรกิจสุขภาพและความงามจะสร้างรายได้ให้บริษัทได้ตามเป้าหมายที่ 600 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานรวมในช่วงครึ่งปีหลังนั้นคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.92 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 1.97 พันล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะในไตรมาส 4/59 จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะมาจากรายได้ของช่อง 8 ที่ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 60% ของรายได้ทั้งหมดไนบริษัท ซึ่งที่จะสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตขึ้น จากการปรับผังรายการที่ใหม่ส่งท้ายปีที่จะช่วยกระตุ้นเรตติ้งและการดึงดูดผู้ชมเพิ่มขึ้น

บริษัทได้เตรียมการปรับผังรายการใหม่ของช่อง 8 รอบใหม่ในไตรมาส 4/59 เพื่อการเดินเครื่องเต็มสูบเร่งตอกย้ำจุดยืนช่อง "เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์" ชูละครเป็นคอนเทนต์หัวหอกดึงดูดผู้ชม พร้อมกับเปิดช่วงละครไพร์มไทม์เวลาใหม่ 18.20 น. "ทางช่องทยอยปรับผังรายการใหม่ตั้งแต่หลังเปิดโลโก้ให้สอดรับกับจุดยืนของช่อง คือ เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์ ซึ่งในแง่อันดับอาจยังไม่ถูกใจในตอนนี้ แต่ในระยะยาวเชื่อมั่นว่าจะถูกใจแน่นอน เนื่องจากช่องมีคอนเทนต์ที่หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันแต่ละคอนเทนต์แข็งแรงและทำงานได้ด้วยตัวเอง ทำให้แต่ละช่วงวันแต่ละรายการมีฐานผู้ชมกลุ่มหลักชัดเจน"นางพรพรรณ กล่าว ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าการปรับผังใหม่ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่งผลให้มีเรตติ้งทะลุ 4 แสนรายต่อนาที จากปัจจุบัน 3.5 แสนรายต่อนาที ขณะที่ค่าโฆษณาเฉลี่ยอยู่ที่ 3 หมื่นบาทต่อนาที เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับราคาขายสูงสุดอยู่ที่ 2.5-3 แสนบาทต่อนาที เป็นช่วงละครตอนเย็น รวมทั้งรายการ 8 แม็กซ์มวยไทย และเดอะ แชมป์เปี้ยน มวยตัดเชือก ทำให้เชื่อมั่นว่าช่อง 8 จะมีรายได้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 2 พันล้านบาท

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิตอลทีวีที่เข้าสู่ปีที่ 3 บริษัทมองว่าอุตสาหกรรมดิจิตอลทีวียังไม่นิ่ง ซึ่งธุรกิจนี้ยังต้องมองในระยะไกล ไม่ได้แค่มองกันในระยะสั้น เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ตอนนี้ยังไม่ใกล้เส้นชัย จึงยังตัดสินไม่ได้ว่าใครแพ้หรือชนะ แต่ให้ดูไปยาว ๆ เพราะยังอยู่ในช่วงที่ผู้ประกอบการหลายรายเพิ่งเริ่มต้นใส่คอนเทนต์ของจริงกัน

โดยเชื่อว่าจะเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนว่าผู้ประกอบการรายใดจะจอดหรือจะรอดหรือจะไปต่อได้หรือไม่ประมาณ 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชำระใบอนุญาตครบทั้งจำนวน โดยส่วนตัวคิดว่าเรตติ้งระหว่างทางไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จว่ารอดและไปต่อได้อย่างเดียว การบริหารต้นทุนควบคู่ไปกับการสร้างรายได้น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า ซึ่งโจทย์การทำธุรกิจยังคงแข่งขันด้านคอนเทนต์หลัก เพื่อดึงดูดให้ผู้ชมใช้เวลารับชมรายการช่องนานขึ้น ทำให้บริษัทมีความเชื่อว่าในปี 60 จะมีความเข้มข้นและดุเดือดกว่าปีนี้อย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ