ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,473.78 จุด ลดลง 18.95 จุด (-1.27%) มูลค่าการซื้อขาย 49,194.03 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,491.16 จุด ส่วนดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,467.55 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 298 หลักทรัพย์ ลดลง 991 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 231 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อิงทางลงหลังจากปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา
ประเด็นหลักในวันนี้น่าจะเป็นการรอผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยได้ให้น้ำหนักไปที่ผลการประชุม BOJ มากกว่า ซึ่งให้จับตาดูในเรื่องของมาตรการว่าจะออกมาถูกใจตลาดหรือไม่ ถ้าออกมาถูกใจก็อาจจะส่งผลต่อตลาดปรับตัวขึ้นไปได้บ้าง ขณะที่ให้น้ำหนักในส่วนของเฟดค่อนข้างน้อย เนื่องจากตลาดฯส่วนใหญ่ต่างคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ทำให้มอง upside ค่อนข้างจำกัด แต่ในทางกลับกันถ้ามี Surprise ออกมา ก็น่าจะส่งผลกระทบเชิงลบมากกว่าเชิงบวก
สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยยังคงติดตามนโยบายการเงินของเฟด และ BOJ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะมีความผันผวน จากผลประชุม BOJ แต่มอง upside คงไม่มาก และให้ระวัง downside
พร้อมให้แนวรับ 1,470 จุด ถ้ายืนไม่อยู่ให้แนวรับถัดมาที่ 1,450-1,430 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490-1,500 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 3,239.29 ล้านบาท ปิดที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,271.34 ล้านบาท ปิดที่ 7.25 บาท ลดลง 0.30 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,018.23 ล้านบาท ปิดที่ 518.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,912.69 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,678.24 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท ลดลง 2.00 บาท