นายบุนชาน กุลวทัญญู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า บริการ “สินเชื่อจิ๋วแต่แจ๋ว" ธนาคารกสิกรไทย จัดแพ็คเกจ “จิ๋วโตไว" เสริมสภาพคล่องครบวงจรให้กับธุรกิจไซส์เล็กที่มียอดขายไม่เกิน 10 ล้านบาท ปล่อยกู้สูงสุด 3 ล้านบาท ผ่อนนาน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมความสะดวกในการรับชำระเงินด้วยเครื่อง K-PowerP@y (mPOS) และลดต้นทุนธุรกิจด้วยแพ็คเกจโทร SME สุดคุ้มจาก AIS สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธันวาคม 59 ตั้งเป้าหมายปล่อยกู้รวมปีนี้ 7,000 ล้านบาท
“จิ๋วโตไว" ซึ่งเป็นโครงการพิเศษสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มียอดขายไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปีที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องหรือขยายธุรกิจในช่วงนี้ โดยธนาคารจะให้การสนับสนุนสินเชื่อวงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาท ผ่อนชำระนานถึง 5 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสในการขาย ด้วยบริการ K-PowerP@y (mPOS) ซึ่งเป็นระบบรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็ปเลตที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและเพิ่มมูลค่าในการรับชำระเงิน นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับเอไอเอสออกแพ็คเกจโทร SME สุดคุ้มจาก AISพิเศษสุด แพ็คเกจโทรราคาประหยัดเพื่อช่วยลดต้นทุนในการติดต่อธุรกิจ ลูกค้าที่สมัครวันนี้ รับฟรีบัตรกำนัลเซ็นทรัล มูลค่า1,000 บาทด้วย
ธนาคารตั้งเป้าหมายลูกค้าผู้ประกอบการขนาดเล็กเข้าร่วมใช้บริการแพ็คเกจ “จิ๋วโตไว" และปล่อยสินเชื่อได้ 200 ล้านบาท จากยอดวงเงินปล่อยกู้รวมทั้งปีนี้ 7,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถขอใช้บริการ “แพ็คเกจจิ๋วโตไว" ได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธันวาคม 2559
"ปัจจุบันผู้ประกอบการขนาดเล็กในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 1.7 ล้านราย แต่มีเพียงส่วนน้อยมากที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงินได้ เนื่องจากการเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้มีอำนาจต่อรองในด้านต่าง ๆ น้อยกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งยังไม่มีการวางแผนธุรกิจหรือการจัดทำระบบบัญชีที่ดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายธุรกิจ และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการขนาดเล็กส่วนใหญ่มีความต้องการแหล่งเงินทุน ที่อัตราดอกเบี้ยไม่สูง และการนำเสนอแพ็คเกจที่ครบวงจรเพื่อช่วยด้านบริหารจัดการต่างๆ ดังนั้น การออกแพ็คเกจจิ๋วโตไว น่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้าต่อไปได้ในระดับหนึ่ง"นายบุนชานกล่าว