ดัชนีหุ้นไทยต้นภาคบ่ายร่วงต่อไปเป็น 20 จุด โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวแย่กว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังนักลงทุนกังวลต่อปัจจัยภายในประเทศ ท่ามกลางแรงขายหุ้นขนาดใหญ่นำออกมาทั้งกลุ่มพลังงาน ,แบงก์ และสื่อสาร รวมถึงวัสดุก่อสร้างด้วย ประกอบกับดัชนีดีดตัวขึ้นมามากก่อนหน้านี้ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง
เมื่อเวลา 14.36 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,485.87 จุด ลดลง 20.12 จุด (-1.34%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.46 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,486.38 จุด ลดลง 19.61 จุด (-1.30%)
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด คาดว่าจะเป็นแรงขายทำกำไร เนื่องจากจะเห็นได้ว่าสัญญาณทางเทคนิคไม่ค่อยดี หลังจากที่ไม่ผ่านแนว 1,500 จุด ทำให้มีแรงขายออกมา แต่ด้วยวอลุ่มเทรดที่ยังไม่มากนัก ก็เชื่อว่าดัชนีฯน่าจะมีลุ้นรีบาวด์ได้บ้าง โดยเฉพาะหากสามารถยืนได้ 1,485 จุด ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไป
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยรวมก็มีแรงขายทำกำไรออกมาเหมือนกัน หลังจากที่ได้รับรู้ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปแล้ว และรับรู้ว่าเฟดคงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสักครั้งในปีนี้ ซึ่งก็คงจะอยู่ในช่วงเดือนธ.ค. ทำให้ตลาดฯพักเรื่องนี้ไปสักพักก่อน
พร้อมให้แนวรับ 1,485-1,470 จุด ถ้าหลุดแนว 1,485 จุด ก็จะเป็นขาลงรอบใหม่ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,505 จุด