นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว (LPH) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงความคืบหน้าแผนเช่าโรงพยาบาลเดชาเพื่อดำเนินธุรกิจว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอการตัดสินใจของทางผู้บริหารโรงพยาบาลเดชาในปัจจุบัน หลังจากที่ยื่นข้อเสนอขอเช่าแทนการเข้าซื้อกิจการเพราะเห็นว่าราคาที่เจรจาซื้อขายกันราว 500-700 ล้านบาทสูงเกินไป แต่หากภายในเดือน ก.ย.นี้ยังไม่ติดต่อกลับมา บริษัทก็คงต้องเปลี่ยนแผนไปหาโรงพยาบาลแห่งอื่นแทน
"ถ้ายังไม่ติดต่อกลับมาภายในเดือนนี้ เราก็ไม่เอาแล้ว ทั้งซื้อและเช่า ถือว่าจบดีล เพราะถ้าช้าเราจะเตรียมตัวเรื่องโควตาประกันสังคมไม่ทัน ซึ่งเราก็จะไปมองหาโรงพยาบาลเอกชนอื่นแทนดีกว่า"นายอังกูร กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้แผนการเช่าโรงพยาบาลเดชาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่บริษัทก็ยังมีการเจรจากับโรงพยาบาลเอกชนอื่นที่มีกำไรแล้วอีก 2 แห่ง ซึ่งโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งยื่นข้อเสนอมาแล้ว และขณะนี้ทีมที่ปรึกษาอยู่ระหว่างวิเคราะห์ผลประกอบการของแต่ละโรงพยาบาลและความคุ้มค่า ซึ่งบริษัทได้เตรียมเงินไว้ 200 ล้านบาทที่ได้จากการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) คาดว่าภายในปีนี้น่าจะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 แห่ง
"ตอนนี้ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ขึ้นอยู่กับราคาและผลกำไรของแต่ละแห่ง เพราะถ้ากำไรดี ราคาก็จะสูง ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 แห่งผลการดำเนินงานมีกำไรพอสมควร แต่เราก็คาดว่าจะมีโรงพยาบาลเพิ่มปีละ 1 แห่ง"นายอังกูร กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ นายอังกูร มั่นใจว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากครึ่งปีแรกกำไรสุทธิเติบโตไปแล้ว 100% ขณะที่ครึ่งปีหลังคาดว่าทั้งรายได้และกำไรจะสูงกว่าครึ่งปีแรก เพราะเข้าสู่ช่วง High season ที่ผู้ใช้บริการจะเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นจากโรคที่มากับฤดูฝนและฤดูหนาว
"ครึ่งหลังทั้งรายได้และกำไรจะสูงกว่าครึ่งแรกปีนี้และสูงกว่าครึ่งหลังปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้จากการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเพราะเป็นช่วงหน้าฝน ทำให้มั่นใจว่ากำไรสุทธิทั้งปีจะขยายตัวสูงกว่า 50% เมื่อเทียบปีก่อน"นายอังกูร กล่าว
อนึ่ง ผลประกอบการของ LPH ในปี 58 มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท ขณะครึ่งแรกของปี 59 มีกำไรสุทธิแล้ว 80 ล้านบาท