นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่ส่วนใหญ่ติดลบเล็กนอ้ย เนื่องจากเห็นได้ชัดถึงการที่นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน และตลาดฯก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาขับเคลื่อน และยังไม่มีปัจจัยกดดันด้วย
ขณะนี้ตลาดฯ ยังรอติดตามเพียงแค่การประชุมของกลุ่ม OPEC กับ Non-OPEC ที่มองว่าเป็นเพียงแค่การหารือเท่านั้น คงไม่มีข้อตกลงใด ๆ ที่มีผลต่อราคาน้ำมันเกิดขึ้น
พร้อมให้กรอบการแกว่งตัววันนี้ไว้ที่ 1,480-1,498 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,228.30 จุด พุ่งขึ้น 133.47 จุด (+0.74%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,305.71 จุด เพิ่มขึ้น 48.22 จุด (+0.92%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,159.93 จุด เพิ่มขึ้น 13.83 จุด (+0.64%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 178.94 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 116.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.05 จุด
ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นเมกี
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ก.ย.59) 1,489.39 จุด ลดลง 0.75 จุด (-0.05%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,003.98 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ก.ย.59) ปิดที่ 44.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ก.ย.59) ที่ 7.15 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.58/60 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ จับตาตัวเลข GDP สหรัฐฯ
- องค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) ออกรายงานปรับลดอัตราการเติบโตของการค้าโลกในปีนี้ลงจากประมาณการเดิมในเดือน เม.ย.ที่ 2.8% เหลือแค่ 1.7% เป็นผลจากสหรัฐนำเข้าสินค้าลดลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ส่งผลให้การค้าของเอเชียชะลอตัวลง*หุ้นเด่นวันนี้
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ประจำประเทศไทย ปรับประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจไทย (จีพีดี) ปี 59 เพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 3.2% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกจีดีพีขยายตัว 3.4% เป็นผลมาจากการลงทุนภาครัฐเพิ่มสูงขึ้น โดยในครึ่งปีแรกขยายตัวถึง 11.8% การบริโภคภาครัฐเพิ่มขึ้น 5% นับเป็นอัตราการขยายตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 55 และการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัว รวมถึงปัญหาภัยแล้งเริ่มคลี่คลายเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี
- ครม.ไฟเขียวโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วงมาบกะเบาชุมทางจิระ วงเงิน 2.9 หมื่นล้าน คาดเปิดประมูล ต.ค.นี้ พร้อมรับทราบ ร.ฟ.ท.กู้เงินไจกาดำเนินการรถไฟสายสีแดง ระยะที่ 3 พร้อมกันนั้น ครม.เห็นชอบกรอบลงทุนรัฐวิสาหกิจปีงบ 60 วงเงิน 1.52 ล้านล้านบาท
- กระทรวงท่องเที่ยวฯ เตรียมจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม หวังเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ประเดิมเจาะตลาดในประเทศ วางเป้าตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการเติบโต 5-10%
*หุ้นเด่นวันนี้
- BCPG (บมจ. บีซีพีจี) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ราคา IPO 10 บาท/หุ้น ด้านบล.กรุงศรี แนะ"ถือ"ให้ราคาเป้าหมาย 11 บาท/หุ้น
โดย BCPG เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในเครือ BCP บริษัทมีเป้าหมายภายในปี 63 จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 1,000 MW ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งแล้ว 418 MW เป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 324 MW (มีทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่น)
- SPALI (เออีซี) "ซื้อ"เป้า consensus 27.75 บาท ปี 59 คาดกำไรโต 4.7%YoY และโตต่อ 10.4%YoY ในปี 60 จาก Backlog รอโอนช่วงที่เหลือของปีราว 9.5 พัน ลบ. (คิดเป็น 98% ของเป้าโอนปี 59) และมีอีก 7 โครงการบ้านและคอนโดที่จะเปิดตัวช่วง 4Q59 มูลค่ารวม 1.7 หมื่น ลบ. และมี Upside 18.1% และคาดให้ Div.Yield 4.8%
- ARROW (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 19.90 บาท ช่วง 2H59 คาดกำไรโต HoH จากเป็น High Season และคาด เมฆา-เอส (ถือ 65%) จะเริ่มส่งมอบงานได้ในอัตราเร่ง หนุนทั้งปี 59 คาดกำไรโต 22%YoY นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆและโครงการย้ายสายไฟลงดิน ของ กฟน.และคาดให้ Div. Yield ปีละ 5%
- GUNKUL (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) "ซื้อ"เป้า 6 บาท คาด H2/59 จะฟื้นตัวดีขึ้นจาก 1H59 เพราะมีกำลังการผลิตส่วนเพิ่มของโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเข้ามา ซึ่งบริษัทเพิ่งรายงานว่ามีกำลังการผลิตส่วนเพิ่ม 72.8 MW เข้ามาเมื่อไม่นานนี้ ทำให้ปัจจุบันมีกำลังการผลิตโซลาร์ญี่ปุ่นรวมทั้งหมด 151 MW และบริษัทคาดว่าจะขยายเป็น 300 MW ในอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้มีโอกาสสูงที่จะประกาศโครงการใหม่ราว 50 MW ภายในสิ้นปี 59 นี้
- BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 20 บาท คาดปี 59 พลิกเป็นกำไรที่ 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากการโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาจะทำการผลิตครบทั้ง 3 หน่วย เพื่อไปสู่เป้าธุรกิจโรงไฟฟ้า 2.4 GW ในปี 63 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 1.63 GW (รวมโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 หน่วย) ดัน BANPU POWER (BPP) เข้าตลท.เดือนต.ค.59 นำเงินไปชำระคืนเงินกู้แก่ BANPU ราว 400 ล้านดอลลาร์ และลดภาระดอกเบี้ยได้ราว 800 ล้านบาทต่อปี และราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 74.5 US/Tons อีกทั้งให้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน BPP 23.1725 หุ้น BANPU ต่อ 1 หุ้น BPP