นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า ด้วยปัจจัยต่างประเทศที่มีน้ำหนักไปในทางลบ หรือรอคอยผลประชุมน้ำมัน นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้น และ Bond Yield ในหลาย ๆ ประเทศปรับตัวลง แสดงถึงสัญญาณลดความเสี่ยงของนักลงทุน ทำให้มองตลาดว่าจะเป็นลบต่อจากวันก่อน ปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดในระหว่างวันจะเป็นราคาน้ำมันดิบในตลาด และ กนง.จะรายงานผลการประชุมเมื่อ 14 ก.ย.
ถึงแม้ผลการโต้วาที (debate) ครั้งแรก นางฮิลลารี่ คลินตัน ได้คะแนน 62% (จากการสำรวจของ CNN) เป็นบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษกิจสหรัฐฯ คือความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาดีเกินคาด 104.1 จากคาด 99.0 เป็นบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯเองและค่าเงินดอลล่าร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปยังมีความกังวลต่อฐานะทางการเงินของ Deutsche Bank ถ่วงตลาดหุ้นยุโรปไว้
ด้านราคาน้ำมันดิบ ตัวแทนของประเทศต่างๆ ทั้ง OPEC และนอกกลุ่ม OPEC ที่นำโดยรัสเซีย ได้เริ่มหารือนอกรอบเพื่อทำข้อสรุปร่วมว่าในที่ประชุมควรมีทางเลือกใดและควรตัดสินใจในแบบใด จากข่าวที่ออกมาในสื่อ ยังไม่มีแนวเลือกใดที่ชัดเจน แม้โดยรวมจะอยากให้มีการปรับลดกำลังการผลิต แต่เราเห็นเป็นแนวทางที่เกิดขึ้นยากที่สุด แต่ถ้ามีการลดกำลังการผลิตขึ้นมาจะเป็นบวกต่อราคาน้ำมัน ที่จะวิ่งได้เกิน 50 เหรียญสหรัฐ ล่าสุด ทางซาอุดิอาราเบีย บอกว่า อาจไม่มีข้อตกลงใด ๆ ในการประชุมครั้งนี้ก็เป็นได้ ซึ่งเป็นลบต่อราคาน้ำมันดิบเช้านี้ ทั้งนี้ ความร่วมมือของอิหร่าน จะเป็นตัวแปรที่จะชี้ผลสำเร็จของการประชุมครั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างกำลังจับตาดูผลการประชุมครั้งนี้ที่คาดว่าจะเริ่มอย่างเป็นทางการ บ่าย 3 โมง (ตามเวลาลอนดอน)
ส่วนปัจจัยในประเทศ การเร่งออกมาตรการกระตุ้นลงทุนและใช้จ่ายของภาครัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนตลาด เพียงแต่ผลลัพธ์ยังไม่เห็นอย่างเด่นชัดโดยเฉพาะเรื่องการลงทุน หรือการประมูลโครงการสาธารณูปโภค ตลาดจึงไม่ค่อยตอบรับกับเรื่องนี้มากเท่าใด ส่วนปัจจัยอื่นๆ มองว่านักลงทุนชะลอการซื้อเพราะไม่มีปัจจัยบวกเด่นๆ จึงไม่อยากเสี่ยง นักลงทุนต่างประเทศก็มีการขายหุ้น 3 วันติดกัน เป็นลบต่อตลาดวันนี้ด้วย เนื่องด้วยที่ผ่านมา ดัชนีฯหรือตลาดหุ้นไทยอยู่ได้ด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนกลุ่มนี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน จากการที่ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนที่มีน้ำหนักมากพอ และโอกาสที่ผลประชุมผู้ผลิตน้ำมันจะออกมาเป็นลบต่อตลาดมากขึ้นตามลำดับ จึงแนะนำให้รอดูทิศทางของตลาดก่อน เลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ที่นักลงทุนต่างประเทศเข้าลงทุนไปก่อน หรือเลือกลงทุนในแบบเก็งกำไรช่วงสั้น ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ (Defensive Stock) หุ้นที่มองว่าน่าสนใจวันนี้ได้แก่ CPN,UNIQ,ILINK,SPALI