โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.สาลี่ พริ้นท์ติ้ง (SLP) เล็งผลการดำเนินงานปีนี้จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้พุ่งเป็น 81-85 ล้านบาท จากปีที่แล้วกำไรสุทธิแค่ 29 ล้านบาท ประเด็นหลักมาจากการบริหารควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น และยังเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้รายได้และมาร์จิ้นกลับมาเติบโตได้ดีขึ้น
ส่วนปี 60 เชื่อว่ากำไรยังจะเติบโตได้ดี ประเมินกำไรสุทธิในช่วง 106-115 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะรุกตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Extended Text Label (ET) เป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นหลัก ปัจจุบันส่งออกไปญี่ปุ่น และเยอรมนีแล้ว แต่ยังมีปริมาณน้อย และผลิตภัณฑ์ In-Mold Label (IML) ที่จะเร่งทำตลาดเพิ่มขึ้นในปีหน้า ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์จะให้มาร์จิ้นที่ดีแก่บริษัท
ราคาหุ้น SLP ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 1.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท (+0.68%) จากราคาปิดวานนี้
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 2.20 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 2.30 โนมูระ พัฒนสิน เก็งกำไร 2.00
นายอำนาจ โงสว่าง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า SLP ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับงานพิมพ์คุณภาพสูงในการผลิตฉลากสินค้าทั้ง Healthy และ Bodycare โดยมีลูกค้าในประเทศเป็นส่วนใหญ่ เชื่อว่าจะสามารถทำกำไรในปีนี้เติบโตได้ดีถึง 178% จากปีก่อน โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 81 ล้านบาท จากราว 29 ล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีแผนลดต้นทุนทั้งในส่วนของพนักงานและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้รายได้และมาร์จิ้นกลับมาเติบโตได้ดีขึ้น โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/59 จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ในปี 60 กำไรจะเติบโตได้ดีโดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะมี ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า ET ซึ่งจะผลิตเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นหลัก และผลิตภัณฑ์ IML ซึ่งจะเร่งทำตลาดให้มากขึ้นในปีหน้า โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์มัอัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างสูง และอยู่ในความสนใจของลูกค้า
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนก่อสร้างโรงงานใหม่ด้วย หากได้งานเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินที่เหลือจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) โดยยังไม่มีการเพิ่มทุนใหม่
ด้านนายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ SLP ในปีนี้จะกลับมาฟื้นตัวจากปีที่แล้วที่มีผลงานไม่ดีนัก เนื่องจากปีนี้บริษัทมีการบริหารควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้ต้นทุนลดลงช่วยหนุนให้กำไรออกมาดี
อีกทั้งในครึ่งหลังปีนี้ยังได้เปลี่ยนเครื่องจักร และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ET ส่งออกไปยังญี่ปุ่น และเยอรมนี แต่ยังทำได้น้อยมาก ซึ่งบริษัทจะทำตลาดจริงจังในต้นปี 60 และผลิตภัณฑ์ คือ IML ก็จะรุกตลาดในผลิตภัณฑ์นี้ให้มากขึ้น ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้จะให้มาร์จิ้นที่ดีเนื่องจากบริษัทจัดเป็นรายแรก ๆ ที่ผลิตสินค้าออก นอกจากนี้บริษัทก็ยังมีดีลกับลูกค้าทั้งเดิม และใหม่อยู่ในขณะนี้ด้วย
ครึ่งแรกปีนี้บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้แล้วราว 35 ล้านบาท ทำให้คาดว่าทั้งปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท ดีกว่าปีที่แล้ว หลัก ๆ มาจากการบริหารควบคุมต้นทุนได้ดี และในปี 60 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 115 ล้านบาท เติบโต 35% จากปีนี้ เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย