พลเรือโท วิพากษ์ น้อยจินดา ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วยผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส , บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือดีแทค และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ได้ประกาศยืนยันที่จะให้ความร่วมมือนำร่องทำสัญญาเช่าให้ถูกต้องกับกรมธนารักษ์ ยุติการตั้งเสาสัญญาณในพื้นที่ที่เป็นการบุกรุก โดยจะเปลี่ยนจุดติดตั้งของเสาสัญญาณให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หรือภายในเดือนธันวาคมนี้
ตามที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งได้รับการมอบอำนาจจากกองทัพเรือให้ดำเนินการจัดระเบียบที่ดิน กรณีการบุกรุกที่ดินของรัฐ บริเวณพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ปรากฏว่า กลุ่มผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 3 ราย ได้แก่ ดีแทค เอไอเอสและทรู ได้ติดต่อเข้าพบเพื่อยืนยันให้ความร่วมมือนำร่องการจัดระเบียบที่ดินตำบลแสมสาร ด้วยการย้ายจุดติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่พิพาทดังกล่าว เพื่อแสดงเจตนารมณ์การประกอบธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ หลังจากทราบว่าการก่อสร้างเสาสัญญาณในพื้นที่แสมสาร ซึ่งเป็นพื้นที่ราชพัสดุและเขตปลอดภัยทางทหาร ยังมิได้ดำเนินการขออนุญาตจากกองทัพเรือหรือเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์มาก่อน
นายธนะพงศ์ สันธนะวิบูลย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายกฎหมาย DTAC กล่าวว่า ในเรื่องนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการยึดถือตามแนวทาง “ดีแทคธรรมาภิบาล" ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ จึงให้ความร่วมมือกับกองทัพเรืออย่างเต็มที่ โดยเมื่อได้รับแจ้งว่าที่ดินในบริเวณดังกล่าวเป็นเป็นพื้นที่สงวนของกองทัพเรือ ซึ่งเกี่ยวข้องประวัติศาสตร์ มีพื้นที่หลายลักษณะ เช่น เขตที่ดินกองทัพเรือ พ.ศ. 2486 เขตหวงห้ามที่ดินกองทัพเรือ พ.ศ. 2490 เขตหวงห้ามที่ดินกองทัพเรือ พ.ศ. 2479 เขตเวนคืนที่ดินกองทัพเรือ พ.ศ. 2514 เขตทรงสงวน เขตพระราชทานเดิมเขตพระราชทานตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2526 บริษัทจึงยินดีที่จะทำการย้ายเสาสัญญาณเป็นกรณีเร่งด่วนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และปฏิบัติตามขั้นตอนในการยื่นขออนุญาตจากกองทัพเรือ และกรมธนารักษ์ โดยระหว่างนี้กลุ่มงานเทคโนโลยีของดีแทค กับกำลังพลของกองทัพเรือจะพิจารณาจุดติดตั้งเสาสัญญาณชั่วคราวในแนวเสาไฟฟ้าของกองทัพเรือ เพื่อให้การติดต่อสื่อสารของประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เกิดผลกระทบในระหว่างการดำเนินการ
นายโชติวัฒน์ อุ่นพิกุล ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม ภาคตะวันออก ADVANC กล่าวว่า เอไอเอสยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับฐานทัพเรือสัตหีบ ในการสนับสนุนแนวทางการจัดสรรที่ดินแสมสาร ของกองทัพเรือ โดยเอไอเอสจะเร่งดำเนินการย้ายเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ไปติดตั้งยังพื้นที่แห่งใหม่ โดยในเบื้องต้นเอไอเอสและฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ร่วมสำรวจพื้นที่ที่จะย้ายไปติดตั้งใหม่แล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะต้องดำเนินการขออนุญาตเช่าใช้พื้นที่กับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้งานของประชาชนและหน่วยงานราชการที่ใช้บริการเครือข่ายเอไอเอสในระหว่างการย้ายเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือออกจากพื้นที่ดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการก่อสร้างพร้อมติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่แห่งใหม่ที่ได้รับการอนุญาตให้แล้วเสร็จเสียก่อน จากนั้นจึงจะย้ายเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกไปจากพื้นที่เดิมซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2559
นายวิวรรธน์ จรัสพงษ์พิชาญ ผู้จัดการทั่วไปภาคตะวันออก บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ในเครือ TRUE กล่าวว่า ทรูมูฟ เอช ยินดีให้ความร่วมมือในการย้ายเสาสัญญาณออกจากจุดติดตั้งเดิมไปยังจุดใหม่ และเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้งานของลูกค้าที่ใช้บริการเครือข่ายในพื้นที่ดังกล่าวน้อยที่สุด บริษัทฯ จำเป็นจะต้องดำเนินการติดตั้งเสาสัญญาณจุดใหม่ก่อนที่จะยกเลิกจุดเดิม ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างยิ่งจากทางฐานทัพเรือและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนลดขั้นตอนต่างๆ อาทิ การอนุญาตให้ก่อสร้าง การอนุญาตให้เริ่มงาน การอนุญาตให้พาดสายใยแก้วนำแสง เป็นต้น ซึ่งคาดว่าหากได้รับความอนุเคราะห์ดังกล่าวจะสามารถดำเนินการติดตั้งในจุดใหม่ได้แล้วเสร็จในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
ทั้งนี้ กองทัพเรือ โดยฐานทัพเรือสัตหีบพิจารณาเห็นว่าการให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าว จัดเป็นบริการสาธารณูปโภคที่จำเป็นในการติดต่อสื่อสารสำหรับประชาชนและกำลังพลในพื้นที่แสมสาร โดยจะเป็นการพิจารณาร่วมกันของกรมธนารักษ์และกองทัพเรือ ในการเห็นชอบให้เครือข่ายทั้ง 3 ราย ทำการเคลื่อนย้ายเสาสัญญาณและไปติดตั้งยังจุดใหม่ที่กองทัพเรืออนุญาต พร้อมทั้งทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป สำหรับการจัดระเบียบที่ดินแสมสารนี้ ฐานทัพเรือสัตหีบได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และการที่ผู้ประกอบการทั้ง 3 รายได้เริ่มเป็นตัวอย่างในการให้ความร่วมมือที่ดีกับทางราชการ จึงคาดว่าจะช่วยให้การเดินหน้าจัดระเบียบที่ดินแสมสารมีแนวโน้มที่ดีขึ้น