ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าบวกกว่า 12 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังกลุ่มโอเปก บรรลุข้อตกลงในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ มีมติปรับลดการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับ 32.5-33 ล้านบาร์เรล/วัน หนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแรงเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างคึกคัก
เมื่อเวลา 9.58 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,491.70 จุด เพิ่มขึ้น 12.12 จุด (+0.82%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.07 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,493.85 จุด เพิ่มขึ้น 14.27 จุด (+0.96%)
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด เป็นการรีบาวด์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า โดยรับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นหลัก ภายหลังจากที่ผลการหารือของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ข้อสรุปที่จะลดกำลังการผลิตลง และจะสรุปกันกับประเทศสมาชิกเกี่ยวกับโควตาของแต่ละประเทศจะเท่าใดในเดือนพ.ย.นี้ ด้วยปัจจัยดังกล่าวนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น
พร้อมให้แนวรับ 1,485 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด
ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า โอเปกยอมกำหนดเพดานการผลิตในรอบ 8 ปี ผลประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ปรากฎว่าโอเปกยอมกำหนดเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 32.5-33 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นความยินยอมของโอเปกตั้งแต่ปี 2551 เทียบกับปัจจุบันที่ผลิต 33.24 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับขึ้น 5-6% และกลุ่มพลังงาน นำตลาดหุ้นสหรัฐรวมถึงตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ยังเป็นการตกลงทางวาจา จะมีการตัดสินใจกำหนดการผลิตของแต่ละประเทศอีกครั้งในการประชุมโอเปกสิ้นเดือนพ.ย.
สำหรับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันในประเทศนั้น แนะนำหุ้น PTTGC ให้ราคาพื้นฐานปีนี้ 70 บาท, IRPC ให้ราคาพื้นฐานปีหน้า 5.80 บาท, PTT ให้เป้าของ Bloomberg Consensus 350 บาท ส่วน PTTEP อาจมีแรงเก็งกำไรแต่แนะนำให้ระมัดระวังเพราะราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าที่ 80 บาท